ธุรกิจรถเช่า คือ อะไร

• ธุรกิจรถเช่า คือ ธุรกิจภาคการบริการ ให้บริการเช่ารถยนต์ เพื่อใช้ในการเดินทางของลูกค้า รายได้มาจากค่าเช่ารถ โดยผู้ประกอบการรถเช่าส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่การให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น เช่าเป็นรายวันจนถึงเช่ารายเดือน ผู้ประกอบการรถเช่าส่วนใหญ่มักจะเป็น sme ขนาดเล็ก มีรถยนต์ให้เช่าประมาณ 10-20 คัน   
• ธุรกิจรถเช่าเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะในการออกเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง นักท่องเที่ยวมักจะวางแผนและคำนึงถึง 3 ประเด็นหลัก คือ หนึ่งเรื่องที่พัก สองเรื่องอาหารและสามเรื่องพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง การให้บริการเช่ารถยนต์เป็นธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการและสามารถแก้ไขปัญหาในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว หรือ จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวได้ ผู้ที่เช่ารถยนต์ส่วนใหญ่มักจะเช่ารถยนต์เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวและทำธุรกิจ โดยมีการเช่ารถเก๋งขนาดเล็กมากที่สุดและมีระยะเวลาในการเช่ารถยนต์โดยเฉลี่ย 3-5 วันต่อครั้ง ธุรกิจรถเช่าในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดประมาณ 42,500 ล้านบาทต่อปี มีจำนวนรถเช่าให้บริการจำนวนประมาณ 400,000 คัน แบ่งออกเป็นกลุ่มตลาดรถเช่าระยะยาว เพื่อใช้ในการดำเนินงานขององค์กร เป็นการทำสัญญาเช่าระยะยาว 3-5 ปี และกลุ่มตลาดรถเช่าระยะสั้น เป็นการเช่ารายวันระยะเวลา 3-5 วัน เพื่อการท่องเที่ยวหรือทำธุระ ซึ่งมูลค่าตลาดรถเช่าถือว่ามีมูลค่าสูงและเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้การท่องเที่ยวของประเทศไทย มีความคล่องตัวและสามารถเติบโตได้ในอนาคต

• ธุรกิจรถเช่าถือเป็นธุรกิจประเภทใดกันแน่ โดยภาพรวมแล้วธุรกิจรถเช่าเป็นธุรกิจในกลุ่มการบริการ โดยพันธกิจที่สำคัญคือการให้เช่ารถยนต์เพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ทำธุระส่วนตัว หรือ เพื่อการดำเนินธุรกิจของลูกค้า สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจรถเช่าส่วนใหญ่มักจะเริ่มจากการให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น จำนวน 1-2 คัน โดยเป็นรถยนต์ของผู้ประกอบการเอง รวมทั้งยังไม่ได้จดทะเบียนธุรกิจ พอเริ่มมีลูกค้ามากขึ้น จึงทำการระดมทุน มีการซื้อรถยนต์เพิ่ม มีการรับพนักงานเพิ่ม และมีการจดทะเบียนธุรกิจในภายหลัง เช่นเดียวกับ ECOCAR rent-a-car ผู้ก่อตั้งของเราก็เริ่มจาการมีรถยนต์ให้เช่าเพียง 1 คัน จากนั้นก็เริ่มขยายกิจการธุรกิจรถเช่าจนได้จดทะเบียนธุรกิจรูปแบบบริษัทและมีรถยนต์ให้บริการ 600 คัน ภายในระยะเวลา 5 ปี แต่กว่าจะเดินทางมาถึงจุดนี้ก็ต้องลองผิดลองถูกมาหลายรูปแบบ เช่น  ถูกนำรถยนต์ไปจำนำ ถูกนำรถไปขายข้ามประเทศ รถชนหนัก รถถูกขโมยอะไหล่ พนักงานโกงเงินค่าเช่า ลูกค้าไม่จ่ายค่าเช่า เป็นต้น  

 

ธุรกิจรถเช่า แบ่งออกเป็นกี่ประเภท

• ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาพบว่าธุรกิจรถเช่ายังเป็นธุรกิจที่เติบโตตามเศรษฐกิจภายในของประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวและการลงทุน เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีความต้องการใช้รถยนต์เพื่อการเดินทาง ขณะที่องค์กรธุรกิจมีความต้องการใช้รถยนต์เพื่อการดำเนินงานของธุรกิจ เช่น การเดินทางติดต่อธุรกิจ การรับรองลูกค้า การขนส่งสินค้าและการรับส่งพนักงาน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันองค์กรภาคเอกชน หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจต่างหันมาใช้บริการรถเช่าเพื่อการดำเนินงานแทนการซื้อรถยนต์มากขึ้น เนื่องจากสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ค่าซ่อมแซม ภาษีรถยนต์ ค่าประกันภัยรถยนต์ รวมถึงการลดภาระด้านการเงิน จากการที่ไม่ต้องชำระเงินซื้อรถยนต์เต็มจำนวน เพื่อซื้อรถยนต์และไม่มีภาระในการจัดหาวงเงินกู้และหลักประกันต่างๆ กับสถาบันการเงิน อีกทั้งยังสามารถนำค่าเช่ารถยนต์ มาหักเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าการบันทึกค่าเสื่อมจากการซื้อและเช่าซื้อรถยนต์ นอกจากนั้นยังสามารถบอกเลิกสัญญาเช่ารถยนต์ได้ เมื่อไม่มีความต้องการใช้แล้ว โดยลักษณะการบริการของธุรกิจรถเช่าสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
• (1) การให้เช่ารถยนต์ระยะยาว (Long Term Car Rental) เป็นการให้เช่ารถยนต์ที่ทำสัญญาเช่าให้สิทธิลูกค้าใช้รถยนต์เป็นระยะเวลาตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เพื่อใช้การดำเนินงาน (Operating Lease) ขององค์กร โดยจะเรียกว่าการเช่ารถระยะยาว ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการเช่ารถยนต์ระยะเวลา 3-5 ปี เป็นการเช่ารถยนต์เพื่อใช้ในการดำเนินงานของบริษัท กลุ่มลูกค้าที่เช่ารถยนต์ระยะยาวจะเป็นนิติบุคคลทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ บริษัทข้ามชาติ หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ที่มีความต้องการใช้บริการยานพาหนะควบคู่ไปกับบริการเสริมครบวงจร เพื่อเป็นการลดภาระและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในการบริหารและจัดการยานพาหนะ โดยลูกค้าสามารถเลือกยี่ห้อและรุ่นของรถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ตามความต้องการ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความสามารถและความคล่องตัวในการจัดหารถยนต์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุดและรวดเร็ว การออกแบบและปรับแต่งรถยนต์ตามความต้องการของลูกค้า การซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ การจัดหารถทดแทน รวมถึงบริการอื่นๆ ที่ตอบสนองความต้องการใช้งานรถยนต์ของลูกค้าอย่างครบวงจร โดยมุ่งเน้นการให้บริการแก่ลูกค้านิติบุคคลซึ่งส่วนใหญ่ทำสัญญาระยะยาว 3-5 ปี การเช่ารถระยะยาวจะช่วยตอบสนองทุกความต้องการเกี่ยวกับรถยนต์ เป็นบริการที่ไม่เพียงช่วยขับเคลื่อนธุรกิจและการดำเนินงานของลูกค้าให้เป็นไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังช่วยอำนวยความสะดวกและจัดการทุกปัญหาเกี่ยวกับรถยนต์ให้แก่ลูกค้าด้วยบริการอันหลากหลายเหนือความประทับใจ ซึ่งผู้ประกอบการรถเช่าระยะยาวมักจะเป็นรายใหญ่ที่มีจำนวนรถเช่าให้บริการหลายพันคัน ได้แก่ กลุ่มบริษัทลีสซิ่งและกลุ่มที่มีความพร้อมทางการเงิน เช่น บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จำกัด (มหาชน), บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
   
• (2) การให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น (Short Term Car Rental) เป็นการให้เช่ารถยนต์ที่ให้สิทธิลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน ซึ่งจะเน้นให้บริการนักท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยการให้บริการเช่ารถระยะสั้นนั้น ผู้ประกอบการรถเช่าจะมีสำนักงานอยู่ตามสนามบินและหัวเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดภูเก็ต พัทยา เชียงราย อุดรธานี หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี กรุงเทพ เป็นต้น การให้เช่ารถยนต์ระยะสั้น ผู้เช่ารับรถยนต์ที่สาขาไหนจะต้องนำรถยนต์ไปคืนที่สาขานั้น หากคืนต่างสาขาจะมีค่าบริการเพิ่ม รวมทั้งผู้เช่าควรจะซื้อประกันภัยเสริมจากบริษัทรถเช่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากกรณีรถยนต์มีอุบัติเหตุ ผู้ประกอบการรถเช่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก มีรถยนต์ให้บริการ 1 คัน ถึง 100 คัน ส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางจะมีรถยนต์ให้บริการจำนวน 100 คัน ถึง 1,000 คัน และกลุ่มแฟรนไชส์ (Franchise) ขนาดใหญ่จากต่างประเทศที่มีแบรนด์เป็นที่รู้จัก มีจำนวนรถยนต์ให้บริการ ประมาณ 1,000 คัน ขึ้นไป เช่น  AVIS rent-a-car ,Budged car rental, Hertz car rental เป็นต้น

 

ธุรกิจรถเช่า ได้ผลตอบแทนเท่าไหร่

หลายคนสอบถามมาว่า ธุรกิจรถเช่าจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนเท่าไหร่ โดยเราจะต้องแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ เงินลงทุน รายได้ และค่าใช้จ่าย รายละเอียด ดังนี้

• เงินลงทุน

1.รถยนต์ เป็นสินทรัพย์หลักที่ใช้ในการประกอบธุรกิจรถเช่า การได้มาซึ่งรถยนต์ แบ่งเป็น 2 แนวทางคือ การซื้อรถยนต์ด้วยเงินสดและการซื้อด้วยวิธีเช่าซื้อรถยนต์ โดยทั่วไปนิยมจัดหารถยนต์มาด้วยการเช่าซื้อ เพื่อให้งบประมาณการลงทุนน้อยที่สุด

2.สำนักงาน ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าสำนักงานและลานจอดรถยนต์

3.อุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์ เครื่อง Printer โต๊ะ เก้าอี้ กระดาษ ปากกา ตู้เอกสาร เคาน์เตอร์

4.อุปกรณ์ดูแลรถยนต์ เช่น เครื่องดูดฝุ่น ปั้มน้ำและถังน้ำ ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง น้ำยาทำความสะอาด ผ้าเช็ดทำความสะอาด ฟองน้ำ

5.เครื่องมือช่างดูแลรถ เช่น ประแจ กล่องเครื่องมือ สายจั้มแบตเตอรี่

 

• รายได้

มาจากการให้เช่ารถยนต์ ยิ่งมีลูกค้าเช่าเยอะ ยิ่งจะมีรายได้มากขึ้น โดยเรามักจะวัดประสิทธิภาพการปล่อยเช่า ด้วยคำว่า อัตราการปล่อยเช่ารถ  โดยทั่วไปควรจะมีอัตราการปล่อยเช่าที่ 70 % ขึ้นไป หรือ ประมาณ 21 วัน
 

• รายจ่าย

1.ค่างวดเช่าซื้อรถยนต์

2.ค่าเช่าสำนักงานและลานจอดรถยนต์
3.ค่าจ้างพนักงาน
4.ค่าประกันภัย พรบ และภาษีรถยนต์ประจำปี
5.ค่า GPS
6.ค่าบำรุงรักษารถยนต์
7.ค่าเดินทาง

 

ตัวอย่างการคำนวนรายได้และค่าใช้จ่าย ของธุรกิจรถเช่า 

สมมุติว่าต้องการเปิดสำนักงานรถเช่าที่จังหวัดขอนแก่น ที่ตั้งสำนักงานมี 2 แนวทาง คือ เช่าพื้นที่ในสนามบินขอนแก่นสามารถตั้งเตาร์เตอร์และมีที่จอดรถในสนามบิน อีกทางเลือกคือ ตั้งสำนักงานอยู่ยอกสนามบิน ซึ่งสามารถให้บริการไปส่งได้ฟรีที่สนามบินขอนแก่น หรือ ในตัวเมืองขอนอก่นก็ได้ ในกรณีเปิดธุรกิจรถเช่าใหม่ โดยที่เงินลงทุนยังไม่เยอะ ผู้เขียนแนะนำให้เปิดสำนักงานนอกสนามบิน เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า 

ต่อมาการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เคสนี้เราเลือกทำธรกิจรถเช่าระยะสั้น กลุ่มลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวหรือทำธุรในจังหวัดขอนแก่น กลุ่มลูกค้ารองจะเป็นคนที่พักอยู่ในเมืองขอนแก่น เช่น นักศึกษา มข. หรือ พนักงานบริษัทที่ต้องการเช่ารถระหว่างนำรถเข้าซ่อม 

ต่อมากำหนดขนาดธุรกิจ ระยะแรกจะเริ่มต้นจากธุรกิจขนาดเล็กก่อน เช่น มีรถให้บริการจำนวน 10 คัน จากนั้นค่อยขยายเป็น 20 คัน และ 40 คันตามลำดับ 

กำหนดจำนวนพนักงาน ให้สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์ สัดส่วนที่แนะนำคือ 1: 10 คือ พนักงาน 1 คน ต่อรถ 10 คัน เพื่อให้ดูและรถยนต์และลูกค้าได้ทั่วถึง

กำหนดขนาดพื้นที่สำนักงานและลานจอดรถยนต์ ให้สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์ โดยทั่วไปแนะนำให้มีที่จอดรถที่รองรับรถยนต์ที่ให้เช่า ประมาณร้อยละ 50 เช่น ถ้าทีจำนวนรถให้เช่า 20 คัน ควรมีที่จอดรถอย่างน้อย 10 คัน 

ต่อไปนี้เป็นตารางการคำนวน รายได้และค่าใช้จ่ายต่อเดือน 
กำหนดตัวแปร 
จำนวนรถยนต์ 20 คัน 
จำนวนพนักงาน 2 คน 
ค่าเช่าสำนักงาน 30,000 บาท/เดือน 

ตารางการคำนวนรายได้ 
 

จำนวนรถยนต์	ราคาเช่า	จำนวนวันที่ปล่อยเช่า	รายได้ต่อเดือน
20	1,200	20	480,000

ตารางการคำนวนค่าใช้จ่ายต่อเดือน 
 

รายการ	ค่าใช้จ่ายต่อหน่วย	จำนวน	ค่าใช้จ่าย
ค่างวดเช่าซื้อรถยนต์	10,000	20	200,000
เงินเดือน	15,000	2	30,000
ค่าเช่าสำนักงาน	30,000	1	30,000
ค่าไฟฟ้า ประปา	10,000	1	10,000
ค่าโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต	2,000	1	2,000
ค่าบำรุงรักษารถยนต์	1,000	20	20,000
ค่า GPS	200	20	4,000
ค่าประกันภัยรถยนต์	1,500	20	30,000
ค่าวัสดุสิ้นเปลืองสำนักงาน	2,000	1	2,000
ค่าเดินทาง	5,000	1	5,000
ค่าโฆษณา	30,000	1	30,000
		รวม	363,000

 

กำไรต่อเดือน = รายได้ - ค่าใช้จ่าย 
                    = 480,000-363,000
                    = 117,000 บาท

ต่อไปลองคำนวนจำนวนเงินลงทุนกันบ้าง ในการเริ่มต้นธุรกิจรถเช่า 

 

รายการ	ค่าใช้จ่ายต่อหน่วย	จำนวนหน่วย	รวม
เงินดาว์นรถยนต์	120,000	20	2,400,000
เงินมัดจำเช่าสำนักงาน	90,000	1	90,000
ตกแต่งสำนักงานและป้าย	200,000	1	200,000
ซื้ออุปกรณ์สำนักงาน	100,000	1	100,000
เงินสดหมุนเวียน	600,000	1	500,000
ค่าทำเว็บไซต์และ SEO	100,000	1	100,000
		รวม	3,390,000

ต่อไปมาลองคำนวนระยะเวลาคืนทุนกันบ้าง 
กำไรต่อปี เท่ากับ 117,000 x 12 = 1,404,000 บาท
ระยะเวลาคืนทุน = 3,390,000 % 1,404,000
                        = 2.4 ปี 

นอกจากนี้ยังจะมีกำไรเพิ่มจากการขายรถยนต์ เมื่ออายุครบ 5 ปี 
รายได้จากการขายรถ = 250,000 x 20 
                               = 5,000,000 บาท 

โดยสรุปจากตารางจะพบว่าธุรกิจรถเช่าค่อนข้างน่าสนใจ แต่ผู้ประกอบการก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ส่งผลให้กำไรลดลง หรืออาจขาดทุนก็เป็นไปได้หากบริหารงานธุรกิจรถเช่าไม่ดีพอ 


ธุรกิจรถเช่ามีความเสี่ยงอะไรบ้าง 

ผู้ประกอบการธุรกิจรถเช่า คือ ผู้ที่ลงเงินและลงแรง ลงเวลา ในการสร้างธุรกิจ ผู้ประกอบการทุกคนต่างก็คาดหวังให้ธุรกิจของตนมีกำไร มีการเติบโต แต่ก็ใช่ว่าทุกธุรกิจจะเป็นอย่างที่คาดหวังไว้ ธุรกิจรถเช่ามีความเสียงมากมายหลายประการ ดังต่อไปนี้ 

1.ธุรกิจรถเช่า 


  

 

 

งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรถเช่า 

อิทธิพลเชิงสาเหตุระหว่างคุณภาพแพลตฟอร์ม คุณภาพการบริการ ส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภคและความภักดีของลูกค้า ที่มีต่อธุรกิจรถเช่าในประเทศไทย

บทคัดย่อ
 

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลเชิงสาเหตุระหว่างคุณภาพแพลตฟอร์ม คุณภาพการบริการ ส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภคและความภักดีของลูกค้า รวมทั้งเพื่อทดสอบการเป็นตัวแปรส่งผ่านของส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภค เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยกลุ่มตัวอย่างคือผู้ที่เคยเช่ารถยนต์ในประเทศไทยจำนวน 432 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างที่คำนึงถึงความน่าจะเป็นแบบกลุ่มพื้นที่ เครื่องมือที่ใช้คือแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์ตัวแบบสมการโครงสร้างด้วยโปรแกรม LISREL ผลการวิจัยพบว่าโมเดลความภักดีของลูกค้าที่เช่ารถยนต์ในประเทศไทยมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในเกณฑ์ดี โดยคุณภาพแพลตฟอร์มและคุณภาพการบริการมีอิทธิพลทางตรงต่อส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภคและมีอิทธิพลทางอ้อมต่อความภักดีของลูกค้า โดยส่งผ่านส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภค ประโยชน์ในเชิงปฏิบัติช่วยให้ผู้ประกอบการรถเช่านำไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงคุณภาพแพลตฟอร์มการจองรถเช่า เช่น เว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนมือถือ ให้ระบบมีคุณภาพ สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและที่สำคัญต้องใช้งานง่าย รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการบริการโดยการเลือกรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมาไว้ให้ลูกค้าเช่า มีบริการจัดส่งรถยนต์ให้ถึงที่บ้านและต้องมีช่องทางให้ลูกค้าติดต่อได้เสมอเมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือ เพื่อสร้างให้ลูกค้าเกิดความภักดี อันเป็นแนวทางที่จะทำให้ธุรกิจรถเช่าอยู่รอดในอนาคต

คำสำคัญ: ธุรกิจรถเช่า คุณภาพแพลตฟอร์ม คุณภาพการบริการ ส่วนประสมการตลาด ความภักดีของลูกค้า

อ้างอิง

ฉัตรชัย โคตถา ,อดิลล่า พงศ์ยี่หล้า,จิราพร ชมสวน (2565). อิทธิพลเชิงสาเหตุระหว่างคุณภาพแพลตฟอร์ม คุณภาพการบริการ ส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภคและความภักดีของลูกค้า ที่มีต่อธุรกิจรถเช่าในประเทศไทย . วารสารสุทธิปริทัศน์ , 36(1),101-125.

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่
งานวิจัยรถเช่า : อิทธิพลเชิงสาเหตุระหว่างคุณภาพแพลตฟอร์ม คุณภาพการบริการ ส่วนประสมการตลาดในมุมมองของผู้บริโภคและความภักดีของลูกค้า ที่มีต่อธุรกิจรถเช่าในประเทศไทย

tag : ธุรกิจรถเช่า แฟรนไชส์รถเช่า ธุรกิจรถเช่าถือเป็นธุรกิจประเภทใด