เช่ารถยนต์ /เช่ารถกรุงเทพ 4 วัน 3 คืน เลาะล้านนาตะวันออก แพร่-น่าน

เช่ารถกรุงเทพ 4 วัน 3 คืน เลาะล้านนาตะวันออก แพร่-น่าน 

การเช่ารถกรุงเทพ เที่ยวภาคเหนือ นอกจาก เชียงใหม่ กับ เชียงราย ที่เป็นที่นิยมในการเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ยังมีอีก 2 จังหวัดที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นมา ซึ่ง 2 จังหวัดดังกล่าว ก็เป็นจังหวัดทางภาคเหนือฝั่งตะวันออก ทั้ง แพร่ กับ น่าน ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ และอุดมไปด้วยวัฒนธรรมล้านนาอันแข็งแกร่ง มาดูว่า 2 จังหวัดนี้ ควรแวะไปไหนบ้าง ในเวลาให้เช่ารถ 4 วัน 3 คืน โดยขอแนะนำว่าให้เช่ารถที่มีเครื่องยนต์ 1.5 เพราะ เส้นทางตามภูมิประเทศ ต้องขึ้นเขาลงห้วย เป็นส่วนใหญ่ 

มีบริการเช่ารถ แบบไหนให้เลือกบ้างที่กรุงเทพ ?
สาขาของ ECOCAR rent-a-car ในเขตกรุงเทพของเรา มีให้บริการรถเช่าทั้งรถเช่าแบบขับเอง และบริการรถเช่าพร้อมคนขับ หรือ รถรับส่งสนามบิน 

เพื่อนำคุณเดินทางไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย และทันเวลาที่กำหนด นี่คือพันธกิจของพวกเราชาว รถเช่ากรุงเทพ ECOCAR rent-a-car
หากอยากท่องเที่ยวกรุงเทพให้มากขึ้น อยากให้ทุกคนรู้จักอ่านบทความนี้เลยกับ 10 ที่เที่ยวไม่ไกลกรุงเทพ ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร

จะรับรถยนต์ได้ที่ไหน?
คุณสามารถรับรถเช่าที่ 6 สาขาในเขตกรุงเทพได้เลย คือ สาขาดอนเมือง / สาขาสุวรรณภูมิ / สาขาลาดพร้าว / สาขาบางหว้า /  สาขาสมุทรปราการ และ สาขานนทบุรี หรือจะกำหนดจุดรับ-ส่งคืน ในเขตสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิก็สามารถทำได้เช่นกัน หากคุณต้องการใช้บริการ ขอให้นึกถึงเรา ECOCAR rent-a-car เช่ารถ กทม. ซึ่งเราเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.
อ่านบทความเพิ่มเติม อยากเช่ารถกรุงเทพ ไปต่างจังหวัด ต้องทำอย่างไรบ้าง

วันแรก เดินทางจาก กทม. ไป แพร่  

เดินทางมุ่งสู่ภาคเหนือ ด้วยเส้นทางถนนสายเอเชีย หรือ ทางหลวง หมายเลข 32 ซึ่งจะไปบรรจบกับทางหลวง หมายเลข 1จากนั้นก็ให้เบี่ยงซ้ายออกไปทางถนนเลี่ยงเมืองบายพาส นครสวรรค์ ไปยังทางหลวง หมายเลข 122 ก่อนที่จะออกตรงสามแยกบางม่วง จ.นครสวรรค์ และให้เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง หมายเลข 117 พอเลย ม.นเรศวร ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวง หมายเลข 126 จะผ่านวงเวียนทางแยกอินโดจีน ให้ตรงไปที่จะมุ่งหน้าไปยัง อุตรดิตถ์ ที่เป็นทางหลวง หมายเลข 11 ขึ้น 'เขาพลึง' ที่จะให้เห็นวิวยอดดอยชัดเจน และจะเขตจังหวัดแพร่ แล้ว ใช้เวลาเดินทาง 6-7 ชั่วโมง ด้วยกัน หลังจากนั้นก็เก็บของเข้าที่พักของคุณ 

เดินทางซื้อหม้อฮ่อมกัน และเดินทางไปดูโค้งเลข 3  

พักผ่อนพักแรงแล้ว ตื่นเช้ามา เช็คเอาท์แล้ง ขอแนะนำไปเดินซื้อเสื้อหม้อห้อม ที่เป็นชุดยอดฮิต ที่สื่อถึงวัฒนธรรมล้านนาได้เต็มๆ โดยแหล่งอุตสาหกรรมหม้อห้อมนั้น จะอยู่ที่ 'หมู่บ้านทำเสื้อหม้อห้อมทุ่งโฮ้ง' ที่ออกจากตัวเมืองราวๆ 4 กิโลเมตร เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าหม้อห้อมดั้งเดิมของจังหวัด มีร้านรวงให้คุณเลือกซื้อติดไม้ติดมือ ก่อนเดินทางไปยัง จังหวัดน่าน หลังจากผ่านสี่แยกร้องเข็ม ในเขต อ.ร้องกวาง ให้ตรงไปยัง จ.น่าน ได้เลย ซึ่งตอนนี้ได้ทำถนนใหม่ ไปกลับ 4 เลนแล้ว และอาจจะมีเหลือ 2 เลนบ้างก็ขับรถอย่างระมัดระวัง 

ระหว่างทางสามารถแวะ 'ถ้ำผานางคอย' เป็นถ้ำที่เกิดจากธรรมชาติมีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามมากมาย ทำให้คุณรีแลกซ์ได้ พอเข้าไปถึงสุดถ้ำ จะมีก้อนหินรูปร่างคล้ายหญิงสาวนั่งอุ้มลูกน้อยรอคอยคนรัก ที่มีตำนานรักต่างชนชั้นที่จบลงด้วยความเศร้า 

จากนั้นก็เข้าสู่จังหวัดน่าน โดยผ่าน 'ศาลเจ้าพ่อเขาครึ่ง' อำเภอเวียงสา ก็ให้บีบแตรสักการะ 3 ครั้งไว้ด้วย จากนั้นก็เดินทางเข้าสู่เมืองน่าน ดินแดนตะวันออกสุดของแคว้นล้านนาไทย โดยแวะไปที่นี่เลย 'วัดพระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง' วัดชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพสักการะกันทั่วประเทศ ภายในมี 'พระธาตุแช่แห้ง' พระธาตุประจำปีเถาะ (กระต่าย) ด้วยการใช้เส้นทางถนนมหาวงศ์ หรือ ทางหลวง หมายเลข 1168 เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเอง 

เสร็จแล้วก็ให้เดินทางออกนอกเมือง ด้วยทางหลวง หมายเลข 101 เดินทางไปยัง อ.ปัว ที่มีชื่อเสียงพวกเครื่องเงิน ก็สามารถซื้อเป็นของฝากได้ ตรงๆ นั้น ก็สามารถหาร้านอาหารแวะกินได้ โดยเฉพาะ อาหารเหนือ จำพวก ไส้อั่ว, แกงฮังเล และ ข้าวซอย จากนั้นก็ให้ใช้ทางหลวง หมายเลข 1081 จะได้ถ่าย 2 จุดเช็คอินชื่อดัง ทั้ง 'โค้งรูปตัวยู' และ 'ถนนเลข 3' ใครชอบลงรูปไอจี หรือ ไอจีสตอรี่ นี่คือที่ที่ของคุณ ด้านที่พักนั้น สามารถหาได้ในเขต อ.ปัว ที่มีบรรยากาศอันเขียวขจีของธรรมชาติ ที่ทำให้สูดอากาศได้เต็มปอด 

ชมถนนลอยฟ้า ดอยภูคา และลงดอยเดินถนนคนเดินเมืองน่าน

ตื่นเช้า จากนั้นให้เดินไปยังอีกสถานที่หนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ก็คือ 'ถนนลอยฟ้า ดอยภูคา' ด้วยใช้ทางหลวง หมายเลข 1256 จากตัวอำเภอปัว ไป ที่เส้นทางนี้จะมุ่งหน้าไปยัง 'อุทยานแห่งชาติดอยภูคา' สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาและสายหมอกที่สวยงาม จนใครก็ต้องมา สามารถจอดรถข้างทางแล้วลงไปถ่ายรูปกับธรรมชาติแบบฟินๆ ได้เลย ขอให้ดื่มด่ำให้กับธรรมชาติให้เต็มที่ ที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ๆ  

เสร็จแล้ว ก็ลงดอย หาอะไรๆ กินในเขต อ.ปัว ให้เต็มที่ หลังจากนั้นให้เดินทางกลับเข้าตัวเมืองน่าน อีกครั้ง และจัดการเก็บของเข้าที่พักและที่นั่น จะมีบริการเช่าจักรยานขี่ทั่วเมือง ซึ่งขอแนะนำให้ไปยังสถานที่สำคัญๆ มากมาย อาทิ เช่น กำแพงเมืองเก่าน่าน, วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร, วัดภูมินทร์, วัดพญาภู, วัดศรีพันต้น และ วัดหัวข่วง น่าน ตกเย็นๆ หากมาช่วงสุดสัปดาห์ ก็จะมี 'ถนนคนเดินเมืองน่าน-กาดข่วงเมืองน่าน' ก็จะมีอาหาร และของฝากที่ระะลึกของจังหวัดน่าน มากมาย ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือ ก่อนที่จะพักผ่อนให้เต็มอิ่ม ตามอัธยาศัย 

เตรียมลงดอย กลับสู่ กทม. 

พอตื่นเช้าทำกิจส่วนตัวแล้ว ก็เตรียมตัวออกเดินทางกลับ กทม. ด้วยเส้นทางหลวง หมายเลข 101 และเช่นเคยผ่านเขาครึ่ง ก็ไม่ลืมที่จะบีบแตรสักการะขอพรให้เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ และเข้าสู่ จ.แพร่ ระหว่างทาง ก็จะผ่านสถานที่สำคัญที่หนึ่งที่ควรแวะ อย่าง 'วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง' วัดชื่อดังที่มีผู้คนให้ความเคารพสักการะกันทั่วประเทศ ภายในมี 'พระธาตุช่อแฮ' พระธาตุประจำปีขาล (เสือ) โดยเลี้ยวเข้าไปยังทางหลวง หมายเลข 1022 ตรง สามแยกช่อแฮ ที่แยกออกมาจากทางหลวง หมายเลข 101 และตรงไปอย่างเดียวก็ถึงแล้ว ตรงๆ นั้น ไหว้สักการะแล้วก็หาที่รับประทานมื้อเที่ยงได้เลย เสร็จแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานคร พร้อมความประทับใจในการเดินทางในการเช่ารถกรุงเทพ เลาะ 2 จังหวัดล้านนาตะวันออก หนนี้