เช่ารถยนต์ /5 จุดหมายปลายทาง เหมาะการเช่ารถขับเอง กับ TOYOTA VIOS

5 จุดหมายปลายทาง เหมาะการเช่ารถขับเอง กับ TOYOTA VIOS 

TOYOTA VIOS ถือว่าเป็นตัวเลือกของรถยนต์ให้เช่ารถขับเอง ที่ให้ความนิยมเสมอมา ด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ที่สามารถขับขี่ขึ้นเขาลงดอยภู ได้สะดวกสบาย โครงรถที่สลิมๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป แน่นอน หากจะเช่ารถแบบนี้ก็ต้องสมบุกสมบันในลุคหล่อๆ สวยๆ มาดูว่า ที่ไหนน่าเช่ารถวีออส เดินทางท่องเที่ยวกัน อาจจะถูกใจคุณก็ได้ มาติดตามกันได้เลย 

มาเช่ารถขับเอง กับ ECOCAR rent-a-car  

ECOCAR rent-a-car ของเรา มีให้บริการรถเช่าทั้งรถเช่าขับเอง และบริการรถเช่าพร้อมคนขับ หรือ รถรับส่งสนามบิน เพื่อนำคุณเดินทางไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย และทันเวลาที่กำหนด สำหรับ การเช่ารถขับเอง ของ ECOCAR rent-a-car ที่พร้อมให้บริการทุกคน

บริการรถเช่าแบบไหนให้เลือกบ้าง ?
ECOCAR rent-a-car ของเรา มีให้บริการรถเช่าทั้งรถเช่าแบบขับเอง และบริการรถเช่าพร้อมคนขับ กรณีที่ลูกค้าทำการจองรถกับเราเสร็จสิ้น (จองรถผ่านไลน์ 24 ชม. คลิก) ลูกค้าสามารถรับรถได้ที่สนามบิน เรามีทีมงานไว้คอยบริการรับ-ส่งรถให้ฟรีไม่เสียค่าบริการ แต่ถ้าลูกค้าต้องการที่จะรับ-ส่งรถนอกสถานที่ เรามีอัตตราค่าบริการเพิ่มแค่ 500 บาทเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น โรงแรม หรือ เกสต์เฮาส์ เราพร้อมบริการ รถพร้อมใช้งาน ตรงต่อเวลา มั่นใจได้เลย 

เช่ารถขับเอง มีราคาเท่าไหร่บ้าง?

เรามุ่งมั่นที่จะให้บริการรถเช่า เพื่อลูกค้าในราคาที่ย่อมเยาและยืดหยุ่นที่สุด เพราะเรามั่นใจว่าคุณภาพบริการ/รถยนต์ของเรา คุ้มค่าแน่นอน เรามีรถให้เช่าหลากหลายราคาขึ้นอยู่กับการใช้งานของลูกค้า และมีการบริการระดับมืออาชีพ ราคาสบายกระเป๋าแน่นอน มีราคารายวันและราคารายเดือน คุณเองก็สามารถวางแผนได้ว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการเช่า *รายการเช่านี้เป็นราคาขับเอง สนใจคลิก

 เงื่อนไขการเช่ารถแบบขับเอง  

หลังจากที่ทำการจองและรับรถเสร็จสิ้น บริษัทจะนับเวลาตามจริงหลังทำการส่งมอบรถให้ลูกค้า เงื่อนไขหลักๆมีดังนี้

1.การชำระเงิน ลูกค้าจะจองรถได้ต่อเมื่อทำการชำระเงินเต็มจำนวน ทางบริษัทถึงจะทำการจองรถให้

เช่น ลูกค้าต้องการเช่า Nissan Almera 1 วัน ราคาต่อวัน 1,498 บาท รวมค่ามัดจำ 5,000 บาท ลูกค้าต้องชำระทั้งหมด
(กรณียกเลิกการจองรถจะไม่สามารถคืนเงินได้ทุกประการ งดรับเงินสดให้โอนเงินเข้าบัญชีบริษัทเท่านั้นหรือรูดบัตรเครดิต)

2. การคืนเงินมัดจำ เงินมัดจำจะได้หลังจากคืนรถแล้วภายใน 24 ชม.พนักงานจะทำการตรวจสภาพรถ ถ้าลูกค้าคืนรถในสภาพเดิม ลูกค้าก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติ่ม

3.น้ำมันที่เราเติมนั้น จะต้องเติมให้เต็มถัง หลังจากลูกค้าใช้รถเสร็จจะต้องนำรถเช่ามาคืนให้เรา น้ำมันเต็มถังเช่นกัน

หากไม่เต็ม บริษัทขอเก็บค่าปรับแล้วแต่ประเภทรถ อยู่ที่ 214-268บาท/ขีด

4.คืนรถช้า ตามเวลาที่กำหนด จะมีค่าปรับในแต่ละประเภทรถ รถเก๋งจะอยู่ที่ 214-268บาท/ชั่วโมง แต่หากเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป ทางเราจะคิดเป็น 1 วันแบบไม่มีเงื่อนไข

5.ประกันภัย ซึ่งลูกค้าสนใจจะซื้อเพิ่ม ในส่วนรถยนต์ ประเภทรถรถเก๋งนั้น ราคา 214-268 บาท/วัน

1. เพชรบูรณ์ 

จังหวัดที่เป็นรอยต่อระหว่าง 2 ภาค ทั้ง ภาคเหนือ กับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยจังหวัดนี้ อุดมไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ ทั้งสายหมอกและขุนเขา สวนดอกไม้ ร้านกาแฟวิวดี ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างมุ่งเข้าหา จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของเพชรบูรณ์มานาน สามารถมาเที่ยวได้ตลอดยิ่งในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ที่ที่น่าแวะ ก็มีจำพวก วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว, สะพานห้วยตอง, ภูหินร่องกล้า, เขาค้อ และ ภูทับเบิก พร้อมได้ลองต้นตำรับไก่ย่าง วิเชียรบุรี ที่มีชื่อเสียงอีกด้วย เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมไม่น้อย หากคิดจะเช่ารถวีออส เดินทางไปจริงๆ

2. จันทบุรี 

เมืองตากอากาศชายทะเลตะวันออก ที่มีความเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับการเดินทางไปเที่ยวทะเลกันเป็นกลุ่มเพื่อนฝูง หรือ ญาติพี่น้อง ครอบครัว แถมมีสถานที่ที่เช็คอินน่าแวะมากมาย และหลากหลายแนวที่คุณจะได้ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น 'วัดปากน้ำแขมหนู' โบสถ์เซรามิกที่ใช้สีพื้นเพียงสองสีคือ น้ำเงิน และ ขาว อันสวยงาม, 'จุดชมวิวเนินนางพญา' จุดชมวิวที่ถือว่าสวยที่สุดในภาคตะวันออก, 'อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลจันทบุรี' โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่สวยที่สุดในประเทศไทย และ 'สะพานตากสินมหาราช' ที่สามารถมองเห็นชุมชนประมงพื้นบ้านที่ทอดยาวไปตามชายฝั่งปากน้ำจันทบุรี พร้อมด้วย ยังได้ไปดูการแสดงของปลาโลมาแสนรู้ ที่ 'โอเอซีส ซีเวิลด์' และ ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง ของขึ้นชื่อของเมืองจันทบูร อีกด้วย 

3. เชียงราย 

จังหวัดเหนือสุดแดนสยาม จังหวัดที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ความเป็นวัฒนธรรมล้านนา อย่างเหนียวแน่น มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เช่น ภูเขายอดดอย, ป่าเขาลำเนาไพร พร้อมกับวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขาหลายๆ เผ่า ไม่ว่าจะเป็น 'วัดร่องขุ่น' พระอุโบสถสีขาวอันสวยงามจากบุคลากรที่มีชื่อเสียงคร่ำหวอดทางศิลปะ, 'วัดร่องเสือเต้น' พระอุโบสถสีน้ำเงินที่มีความสวยงามไม่แพ้วัดร่องขุ่น, 'สะพานข้ามหนองหลวง' จุดเช็คอินแห่งใหม่ของเชียงราย และ 'ริเวอร์ฟรอนท์ เชียงของ' จุดชมวิวริมแม่น้ำโขง ที่เห็นฝั่ง สปป.ลาว ชัดๆ รวมไปถึง 'สามเหลี่ยมทองคำ' ที่จะได้เห็นตั้ง 3 แผ่นดิน ไทย-เมียนมา-สปป.ลาว ได้อย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ ยังมี 'ถนนคนเดิน เชียงราย' ที่มีทุกวันเสาร์ กับ 'สันโค้งถนนคนม่วน' ที่มีทุกวันอาทิตย์ 

4. กาญจนบุรี

จังหวัดทางฝั่งตะวันตกที่มีประวัติศาสตร์มาช้านาน ตั้งแต่ยุคโบราณ จนมาถึงยุคใหม่ โดยเฉพาะจุดที่เป็นการเดินทัพในการศึกสงคราม พร้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามมากมาย ที่น่ามาสัมผัสเพื่อชาร์จพลังเต็มพิกัด ตามคำขวัญที่ว่า "แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก" ไม่ว่าจะเป็น ‘สะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแคว’ จุดเช็คอินสุดคลาสสิกที่ต้องแวะมา, 'ถ้ำกระแซ' ซึ่งมีวิวสะพานทางรถไฟเลียบแม่น้ำแควน้อย ที่สุดจะหวาดเสียวและอันตราย, 'น้ำตกไทรโยคน้อย' น้ำตกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน และที่ที่ต้องไปอย่างมากเลยคือ 'สะพานมอญ (สะพานอุตตมานุสรณ์)' สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย รวมไปถึง 'บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก' หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ ที่รอต้อนรับผู้โหยหาธรรมชาติจากทั่วสารทิศ

5. น่าน 

จังหวัดทางภาคเหนือฝั่งตะวันออก ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ ภูเขาอันสวยงาม และอุดมไปด้วยวัฒนธรรมล้านนาอันแข็งแกร่ง ที่คุณสามารถเบิ้ลเดินทางแพ็คคู่ได้ ซึ่งสามารถแวะ จ.แพร่ เป็นของแถมด้วย ไม่ว่าจะเป็น 'หมู่บ้านทำเสื้อหม้อห้อมทุ่งโฮ้ง' แหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าหม้อห้อม เสื้อผ้าชื่อดังในดินแดนล้านนา, 'พระธาตุช่อแฮ' พระธาตุประจำปีขาล (เสือ), 'พระธาตุแช่แห้ง' พระธาตุประจำปีเถาะ (กระต่าย), 'ถนนเลข 3' ถนนที่ใครๆ ต้องแวะมาถ่ายภาพเก็บไว้ลงไอจี, 'ถนนลอยฟ้า ดอยภูคา' ที่จะได้เห็นความสวยงามของป่าเขาได้เต็มๆ และปิดท้ายด้วย 'ถนนคนเดินเมืองน่าน-กาดข่วงเมืองน่าน' ที่มีอาหาร และของฝากที่ระะลึกของท้องถิ่นมากมาย ให้เลือกซื้อติดไม้ติดมือ