เช่ารถราคาถูก ตะลอนหมู่บ้านโบราณ 3 ชนชาติในเมืองอยุธยา
วันนี้จะมาเช่ารถราคาถูก เดินทางไม่ไกลมาก ณ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เมืองกรุงเก่าที่เป็นราชธานีมายาวนานถึง 417 ปี นอกจากวัดวาอารามที่สวยงาม ตามที่ทำให้คุณเหมือนตามรอยละครดัง อย่าง 'บุพเพสันนิวาส' แล้ว ยังมีอีกสถานที่ที่เป็นแหล่งพักพิงของชาวต่างชาติในยุคก่อน ด้วย เพราะ อยุธยา ต้องทำมาการค้าขายกับนานาประเทศ มาดูว่า ชนชาติไหนที่มาตั้งชุมชนของประเทศนั้นบนพื้นที่เมืองกรุงเก่านี้ จากข้อมูลของเพจ ตะลอนเที่ยว อยุธยา
มีบริการเช่ารถราคาถูก แบบไหนให้เลือกบ้างที่กรุงเทพ ?
สาขาของ ECOCAR rent-a-car ของเรา มีให้บริการรถเช่าทั้งรถเช่าแบบขับเอง และบริการรถเช่าพร้อมคนขับ หรือ รถรับส่งสนามบิน
เพื่อนำคุณเดินทางไปสู่จุดหมายอย่างปลอดภัย และทันเวลาที่กำหนด นี่คือพันธกิจของพวกเราชาว รถเช่ากรุงเทพ ECOCAR rent-a-car
หากอยากท่องเที่ยวกรุงเทพให้มากขึ้น อยากให้ทุกคนรู้จักอ่านบทความนี้เลยกับ 10 ที่เที่ยวไม่ไกลกรุงเทพ ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร
เช่ารถ จะรับรถยนต์ได้ที่ไหน? คุณสามารถรับรถเช่าที่ 6 สาขาในเขตกรุงเทพได้เลย คือ สาขาดอนเมือง / สาขาสุวรรณภูมิ / สาขาลาดพร้าว / สาขาบางหว้า / สาขาสมุทรปราการ และ สาขานนทบุรี หรือจะกำหนดจุดรับ-ส่งคืน ในเขตสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิก็สามารถทำได้เช่นกัน
ECOCAR rent-a-car เราเป็นแบรนด์รถเช่าชั้นนำของไทย ที่มีสาขาให้บริการมากที่สุดในกรุงเทพ 6 สาขา และสาขาอื่นๆ ทั่วไทยอีก 4 สาขา ซึ่งวันนี้เราเปิดให้บริการแล้วที่ 6 สาขาในเขตกรุงเทพ ซึ่งวันนี้เราพร้อมให้บริการรถเช่ากับชาวกรุงเทพและปริมณฑลและนักเดินทางที่แวะมาเยี่ยมเยือนกรุงเทพของเรา หากคุณต้องการใช้บริการ ขอให้นึกถึงเรา ซึ่งเราเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น. และสามารถแอดไลน์ได้ที่ @ecocar ได้เลย
เดินทางอย่างไรก่อน หลังการเช่ารถราคาถูก เที่ยว 3 หมู่บ้านต่างชาติ ยุคกรุงศรีฯ
เริ่มแรกให้ใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 308 ที่แยกออกมาจากทางหลวง หมายเลข 32 หรือ ถนนสายเอเชีย ที่จะมุ่งหน้าไปยัง อ.บางปะอิน จากนั้นจะมีสะพานข้ามทางรถไฟ ก็ให้ข้ามและเลาะออกเลนซ้าย ลงสะพาน เพื่อเลี้ยวซ้ายไปยังทางหลวง หมายเลข 3477 ที่จะมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา และให้วิ่งตรงเพียงอย่างเดียว ผ่าน 'ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม' และเลาะลอดใต้ท้อง 'สะพานเกาะเรียน' กับ 'สะพานอโยธยา' ก็จะถึงหมู่บ้านแรกในการเช่ารถราคาถูกเที่ยวแล้ว นั่้นก็คือ 'หมู่บ้านญี่ปุ่น'
หมู่บ้านญี่ปุ่น
เป็นถิ่นที่อยู่ดั้งเดิม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ได้จำลองบรรยากาศให้คล้ายกับประเทศญี่ปุ่น สำหรับใครที่อยากซึมซับบรรยากาศญี่ปุ่นแบบเต็มที่ ก็มีชุดกิโมโน และ ยูคาตะ ไว้ให้คุณถ่ายรูปสวยๆ กับ เสาโทริอิ และสวนญี่ปุ่น อันสวยงาม ราวกับว่าอยู่ในดินแดนอาทิตย์อุทัยก็ไม่ปาน
พร้อมกันนนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์โชว์ข้าวของเครื่องใช้ และประวัติความเป็นมาในด้านความสัมพันธ์ทางการค้า ระหว่าง ไทย-ญี่ปุ่น ตั้งแต่ อดีต จนถึงปัจจุบัน รวมไปถึง ประวัติบุคคลสำคัญของชาวญี่ปุ่น ที่มีบทบาทในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยา อาทิ เช่น ยามาดะ นากามาสะ ขุนนางซามูไรแห่งอโยธยา หรือในนาม 'ออกญาเสนาภิมุข' และ มารี กีมาร์ หรือ 'ท้าวทองกีบม้า' สตรีผู้สูงศักดิ์ ที่มีเชื้อสายผสม ระหว่าง ญี่ปุ่น-โปรตุเกส ผู้ที่ให้กำเนิดขนมไทยทั้งหลายทั้งมวล เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 09.30-17.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 50 บาท
หมู่บ้านโปรตุเกส
จุดที่สองที่จะเดินทางไปเยี่ยมชมก็คือ 'หมู่บ้านโปรตุเกส' อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำกับหมู่บ้านญี่ปุ่น เป็นถิ่นที่อยู่เดิมของผู้คนจากประเทศโปรตุเกส ที่เป็นชนชาติจากทวีปยุโรป ชาติแรกๆ ที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับอยุธยา เพื่อทำการค้าขายต่างๆ โดยเฉพาะ ทางการทหาร ในการนำเข้าอาวุธยุทโธปกรณ์ จำพวก ดินปืน, ปืนไฟ, ปืนนกสับ, ปืนคาบศิลา และ ปืนใหญ่ ไฮไลท์ของที่นี่ จะอยู่ที่ 'บ่อกลม' หลายบ่อ มีขนาดครึ่งเมตร ก้นลึกคล้ายกระทะขนาดใหญ่ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นโรงอาบน้ำหรือบ่อหมักสบู่ ที่เป็นหลักฐานยืนยันว่า ไทย รับอารยธรรมการใช้ 'สบู่' มาจากชาวโปรตุเกส รวมไปถึง อุปกรณ์เก็บอาหาร อย่าง 'ปิ่นโต' อีกด้วย
ด้านการเดินทางนั้นก็ให้ใช้เส้นทางหลวงชนบท อย.2053 ที่ออกจากหมู่บ้านญี่ปุ่น แล้วไปกลับรถใต้สะพานข้ามทางรถไฟ และให้ข้ามสะพานอโยธยา จนถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาที่จะเดินทางยัง อ.เสนา กับ วัดพุทไธศวรรย์ และจะอยู่ทางขวามือที่มีป้ายบอกหมู่บ้านโปรตุเกส อย่างชัดเจน เปิดให้เข้าชม เวลา 09.00-17.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์
บ้านฮอลันดา
มาถึงจุดสุดท้ายในการเช่ารถ เยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณแล้ว ซึ่งที่นี่จะเป็นพื้นที่ของชุมชนของชาวฮอลันดา หรือปัจจุบัน คือ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งที่นี่เคยเป็นชุมชนของชาวดัตช์ที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามในช่วงปลายรัชสมัยของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ปัจจุบันได้มีการสร้างขึ้นใหม่เป็นอาคารก่ออิฐ สูง 2 ชั้น ทาด้วยสีส้มอันสะดุดตา สาเหตุว่าทำไม เนเธอร์แลนด์ ถึงใช้ 'สีส้ม' เพราะ สีดังกล่าว เป็นสีที่ให้รำลึกถึง 'เจ้าชายวิลเลียม แห่งออเรนเย่' จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ภายในอาคารนั้น ได้จัดแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์ ระหว่าง ไทย-เนเธอร์แลนด์ บอกเล่าความเป็นมาและวิถีชีวิตผู้คนจากดินแดนกังหันลม ที่มาตั้งรกรากในเมืองสยาม พร้อมร้านของขายที่ระลึก และ คาเฟ่ที่ตกแต่งได้สดใสน่ารัก
ส่วนทางเข้าบ้านฮอลันดา ค่อนข้างลึกลับและอยู่ในซอยแคบหน่อย ถ้ามาจากหมู่บ้านญี่ปุ่น จะมีโรงเรียนวัดพนัญเชิง ให้เลี้ยวเข้าไปจอดรถตรงนั้นได้เลย จากนั้นเดินออกทางข้างหลังโรงเรียนจนสุดทางจะเห็นบ้านฮอลันดาอยู่ทางขวามือ เปิดให้บริการทุกวันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. ค่าเข้าชม คนละ 50 บาท
ชมช็อปปิ้งของพื้นเมืองขึ้นชื่อ ราคาบ้านๆ ในบรรยากาศน่ารักๆ ณ ตลาดโก้งโค้ง
หากต้องการกินอะไรในราคาประหยัด แถมอิ่มท้อง ขอแนะนำไปที่ 'ตลาดโก้งโค้ง บ้านแสงโสม' ตั้งอยู่ในเขต อ.บางปะอิน ริมทางหลวง หมายเลข 3477 เป็นตลาดโบราณสไตล์วินเทจ ที่ยังคงรักษาความดั้งเดิมของอยุธยาในสมัยก่อนๆ ไว้ อย่างเหนียวแน่น แหล่งที่รวบรวมของดีของอร่อยในราคาประหยัด ไม่ว่าจะเป็น ขนมหวานโบราณ อาหารคาว เครื่องดื่ม เครื่องเทศ-สมุนไพรแบบไทยๆ พร้อมด้วย เครื่องใช้ภายในบ้านต่างๆ เช่น จานเคลือบ, ถ้วยเคลือบ และ กระโถนเคลือบ ที่ทำให้คุณย้อนสมัยตอนคุณเป็นวัยเยาว์ เปิดให้คุณช็อปปิ้งได้เพลิดเพลิน ทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ เวลา 10.00-16.00 น.