ค้นหาบทความ :


สถานที่ท่องเที่ยว /เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดวันอังคาร ตอนที่ 1 : วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง


share : Exclusive Exclusive Exclusive
1 ครั้ง
Created : 24-09-2024
วัดป่าโมกวรวิหาร

เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดวันอังคาร ตอนที่ 1 : วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง



     สวัสดีครับ มาพบกับบทความ “เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดวันอังคาร” ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้เขียนบทความเรื่องนี้ เป็นบทความสำหรับผู้ที่เกิดวันอังคาร หรือผู้ที่มีคนรักเกิดวันอังคารโดยเฉพาะ

       ในตอนแรก เราจะไปไหว้พระกันที่อ่างทอง ในวัดแห่งหนึ่ง ณ อำเภอป่าโมก โดยอารามแห่งนี้มีชื่อว่า “วัดป่าโมกวรวิหาร”

         ถ้าท่านอ่านบทความนี้แล้วต้องการเดินทางไปวัดป่าโมก แต่ท่านไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ได้โปรดมาเช่ารถกับเรา Ecocar ข้าพเจ้ารับรองว่าท่านจะได้พบกับความสะดวกสบายแน่นอนครับ

    #รถเช่า ECOCAR  #เช่ารถ ECOCAR รถเช่าที่คุณวางใจ เช่ารถง่ายได้รถไว ใครใครก็เช่าได้ เพื่อเดินทางไปวัดป่าโมก จังหวัดอ่างทอง

สามารถจองเช่ารถกรุงเทพ กับ ECOCAR rent-a-car ได้เลย

เช่ารถกรุงเทพ ราคาเท่าไหร่ ? สามารถสอบถามเรื่อง รถเช่ารายวัน ของ ECOCAR rent-a-car ได้เลย โดยจะมีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง, รถกระบะ, รถยนต์หรู รวมไปถึง รถ 7 ที่นั่ง SUV และ รถตู้ สามารถสอบถามได้ เพียงแอดไลน์ @ecocar ได้เลย พร้อมเอกสารเบื้องต้น อาทิ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และ บัตรเครดิต หากไม่มีส่วนนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ว่าจะเป็นเอกสารแบบไหนแทนได้

 

แนะนำเส้นทาง

    ข้าพเจ้าเริ่มต้นทางที่ Ecocar สาขาดอนเมือง เลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จนบรรจบถนนพหลโยธินที่แยกอนุสรณ์สถาน วิ่งไปตามถนนพหลโยธินต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับบางปะอิน1 ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 ขับไปตามถนนเส้นนี้สักระยะหนึ่ง ต่อมาให้เลี้ยวซ้ายบรรจบทางหลวงหมายเลข 33 เดินทางไปเรื่อยๆ เมื่อรถขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ให้เลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3501 ขับไปตามถนนเส้นนี้ไม่นานก็ถึงวัดป่าโมกวรวิหาร เป็นจุดหมายปลายทาง

 

วัดป่าโมกวรวิหาร

    วัดป่าโมกวรวิหาร ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันตกห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองไป 18 กิโลเมตร ภายในวัดแห่งนี้มีพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของเมืองไทย เป็นองค์พระก่ออิฐถือปูนปิดทอง มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท 22.58 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย มีประวัติความเป็นมาเล่าขานกันว่า พระพุทธรูปองค์นี้ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัด ราษฎรบวงสรวงแล้วชักลากขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนที่จะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราช ได้เสด็จมาชุมนุมพลและถวายสักการบูชาพระพุทธรูปองค์นี้

เดิมวัดป่าโมกนั้นเป็นพื้นที่วัดสองวัดติดต่อกัน คือ วัดชีปะขาว และวัดตลาด ต่อมากระแสน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะตลิ่งหน้าวัดชีปะขาวจนพัง โดยบริเวณที่ตลิ่งพังนั้นใกล้วิหารอันประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ ทำให้พระมหาสุวรรณโชติ เจ้าอธิการของวัด ได้เข้าพบพระยาราชสงคราม(ปาน) ครั้งดำรงฐานันดรศักดิ์ พระราชสงคราม แจ้งความเรื่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะตลิ่งพัง พระราชสงครามได้ฟังดังนั้น จึงเข้าเฝ้ากราบบังคมทูลสมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 9 พระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ

ต่อมาพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระได้โปรดเกล้าฯให้พระราชสงคราม เป็นแม่กองชักชลอพระพุทธไสยาสน์ให้พันจากอุทกอันตรายเมื่อปีศักราช 1088 (พ.ศ.2270) มาสถิต ณ วัดตลาด ซึ่งห่างจากวัดชีปะขาว 10 เส้น ทั้งนี้ใช้เวลาในการชักชะลอ 5 เดือน จากนั้นพระองค์โปรดเกล้าฯให้รวมวัดตลาดกับวัดชีปะขาวเป็นวัดเดียวกัน พระราชทานนามว่าวัดป่าโมกเพราะบริเวณนั้นมีต้นโมกมากมาย แล้วโปรดเกล้าฯให้สร้างวิหาร ศาลาการเปรียญ โรงอุโบสถ พระเจดีย์ กุฏิ ศาลา กำแพง หอไตร ฉนวน 54 ห้อง หลังคามุงกระเบื้อง ส้วม ถาน สะพาน และบันได 5 ปีจึงแล้วเสร็จ ยังมิได้ฉลอง สมเด็จพระเจ้าท้ายสระก็ประชวรและสวรรคตเสียก่อน

สิ่งสำคัญในวัดป่าโมกวรวิหารเช่น พระวิหารเขียน ตั้งอยู่ด้านหน้าพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ ทิศใต้ของศาลาฉนวน สร้างในสมัยพระเจ้าท้ายสระที่เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าท้ายสระ ในคราวเสด็จชะลอพระพุทธไสยาสน์ เล่ากันว่า ผนังวิหารด้านที่หันออกสู่แม่น้ำมีแท่นสูงเข้าใจว่าเป็นแท่นที่เคยมีกษัตริย์เสด็จประทับยืนบริเวณนั้น มีภาพเขียนชาดก ฝีมือช่างสมัยรัชกาลที่ 3-4 บานประตูกลางวิหารเขียนเป็นมุก ได้นำไปไว้ที่วิหารยอด วัดพระศรีรัตนศาสดารามในสมัยรัชกาลที่ 5 ด้านหน้าพระวิหารมีเรือสำเภาก่อด้วยอิฐฉาบปูน มีเจดีย์ประดิษฐานอยู่ตรงกลางลำเรือนั้นอยู่ พระมณฑปพระพุทธบาท 4 รอย ตั้งอยู่ระหว่างพระวิหารเขียนกับพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ รอยพระพุทธบาทสลักด้วยหิน เล่าสืบกันต่อมาว่า เดิมตั้งอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก พระอุโบสถ พระวิหารเขียน และพระมณฑปพระพุทธบาทสี่รอย เป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยาที่กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวัตถุของกรมศิลปากรแล้ว

นอกจากนี้ยังมีพระวิหารน้อย ตั้งอยู่ด้านหน้าของวิหารพระพุทธไสยาสน์ ทิศเหนือของศาลาฉนวน ประดิษฐานรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโมก ตั้งอยู่นอกกำแพงด้านหน้าพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ เหนือศาลาฉนวนหรือศาลายาว เป็นทางเดินจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปสู่พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ อีกทั้งยังมีหอไตร และศาลเจ้าแม่ช่อมะขาม

 

    ชื่อสถานที่: วัดป่าโมกวรวิหาร

    ที่ตั้ง: ตำบลป่าโมก อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง 14130

    เปิดทำการ: ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.

    โทรศัพท์: 035661115

 

พระพุทธรูปประจำวันอังคาร : พระพุทธไสยาสน์

    สำหรับพระพุทธไสยาสน์ของวัดป่าโมกวรวิหารนั้นมีความเก่าแก่คู่กันมากับวัด มีขนาดใหญ่โตและงดงามมาก สร้างก่อนรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จมาประชุมพลก่อนจะเสด็จไปรบกับพระมหาอุปราชา ได้เสด็จมาทรงสักการะพระพุทธไสยาสน์ก่อน เมื่อปี พ.ศ. 2135

#เช่ารถ #รถเช่า นึกถึงรถเช่า นึกถึงECOCAR

ไอดีไลน์ @ecocar

Call Center 020024606

0922848660

www.ecocar.co.th

www.thairentecocar.com

www.thairentecocar.co.th

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.pamok.go.th/data.php?content_id=18

https://angthong.prd.go.th/th/content/category/detail/id/343/iid/4120

https://www.dhammathai.org/watthai/dbview.php?No=66


บทความที่น่าสนใจ

เช่ารถหรู เหมาะกับใครและเช่ากับ ECOCAR ดียังไง ?

อยากเช่ารถเบนซ์กับ ECOCAR rent-a-car ต้องทำอย่างไรบ้าง ?





สาขาของเรา