สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ พบกับบทความ “เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดวันอังคาร” กันอีกเช่นเคยนะครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ข้าพเจ้าได้มาพบกับท่านผู้อ่าน ครั้งที่แล้วเราไปกันที่จังหวัดอ่างทอง ครั้งนี้ก็ขยับมายังจังหวัดใกล้เคียงอย่างสุพรรณบุรีกันบ้าง โดยเราจะไปกันที่ “วัดพระนอน” และถ้าท่านต้องการจะไปยังอารามแห่งนี้ แต่ท่านไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ได้โปรดมาเช่ารถกับเรา Ecocar ข้าพเจ้ารับรองว่าท่านจะได้พบกับความสะดวกสบายแน่นอนครับ

เช่ารถ

สามารถจองเช่ารถกรุงเทพ กับ ECOCAR rent-a-car ได้เลย

เช่ารถกรุงเทพ ราคาเท่าไหร่ ? สามารถสอบถามเรื่อง รถเช่ารายวัน ของ ECOCAR rent-a-car ได้เลย โดยจะมีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง, รถกระบะ, รถยนต์หรู รวมไปถึง รถ 7 ที่นั่ง SUV และ รถตู้ สามารถสอบถามได้ เพียงแอดไลน์ @ecocar ได้เลย พร้อมเอกสารเบื้องต้น อาทิ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และ บัตรเครดิต หากไม่มีส่วนนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ว่าจะเป็นเอกสารแบบไหนแทนได้

แนะนำเส้นทาง

    ข้าพเจ้าเริ่มต้นทางที่ Ecocar สาขาดอนเมือง เลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จนบรรจบถนนพหลโยธินที่แยกอนุสรณ์สถาน วิ่งไปตามถนนพหลโยธินต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับบางปะอิน1 ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 ขับไปตามถนนเส้นนี้สักระยะหนึ่ง ต่อมาให้เลี้ยวซ้ายบรรจบทางหลวงหมายเลข 33 เดินทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งบรรจบถนนหมื่นหาญที่บริเวณสะพานอาชาสีหมอก2 โดยให้ท่านขับตรงไปตามถนนหมื่นหาญแล้วเลี้ยวขวาที่ถนนเณรแก้ว ต่อมาวิ่งตรงไปจนกระทั่งบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 321 หรือถนนมาลัยแมนที่บริเวณหอนาฬิกาบรรหาร-แจ่มใส ให้ท่านเลี้ยวซ้ายเข้าถนนมาลัยแมน ขับตามถนนเส้นนี้ไปเรื่อยๆ และหลังจากวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแล้วนั้น ให้ท่าน U-turn แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสมภารคง จากนั้นตรงไปเรื่อยๆ เมื่อท่านขับรถผ่าน รพสต.พิหารแดง ท่านก็จะถึงวัดพระนอน อันเป็นจุดหมายปลายทางในที่สุด หรือท่านเสิร์ช GPS ค้นหา “วัดพระนอน สุพรรณบุรี” ก็สะดวกเช่นเดียวกัน

วัดพระนอน

         สำหรับข้อมูลของวัดพระนอน อ้างอิงจากเว็บไซต์ของ “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” ความว่า วัดพระนอน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ ณ ตำบลพิหารแดง ติดริมแม่น้ำท่าจีน เป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในวัดมีสิ่งน่าสนใจมากมาย เช่น ศาลาการเปรียญที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัด ส่วนด้านในจะพบกับ "อุทยานมัจฉา" ซึ่งเป็นโครงการในพระราชดำริของกรมสมเด็จพระเทพฯ ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำหน้าวัด มีปลานานาชนิดชุกชุม ทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาแรด โดยทางวัดประกาศเป็นเขตอภัยทาน ใกล้ ๆ กับอุทยานมัจฉาเป็น "ศาลเจ้าแม่กวนอิม" ซึ่งผู้สนใจสามารถแวะเข้าไปสักการะเจ้าแม่ได้ที่นี่ ถัดมาคือ"วิหารพระนอน" เป็นวิหารทรงจตุรมุข โดยมุขด้านหน้ามีหลังคาต่อเติมออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาไหว้พระ

    อย่างไรก็ตาม สุทน รุ่งธัญรัตน์ ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระนอนแห่งนี้ ความว่า เดิมวัดนี้มีมาตั้งแต่สมัยอู่ทองแล้วกลายเป็นวัดร้างไปจนกระทั่งในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงได้มีการบูรณะวัดขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ยังมีการขุดค้นพบภาชนะเครื่องปั้นดินเผาที่ฝังอยู่ใต้ดินของบริเวณวัด เครื่องปั้นดินเผานี่เองที่ทำให้ทราบว่าอารามแห่งนี้มีความเป็นมาตั้งแต่สมัยอู่ทอง

    ขณะเดียวกัน ในเว็บไซต์ เรารักสุพรรณ กล่าวว่าภาชนะเครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบนี้ เป็นภาชนะที่ถูกเผาด้วยอุณหภูมิต่ำ มีลายประทับและฝาภาชนะที่มีลักษณะของภาชนะดินเผาสมัยอยุธยา เครื่องถ้วยจีน สมัยราชวงศ์เหม็ง เครื่องสังคโลก

พระพุทธรูปประจำวันอังคาร : รูปปั้นพระนอนหงาย

          พระนอนของวัดแห่งนี้ เป็นพระพุทธรูปปางไสยาสน์สลักจากหินทรายแดง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอู่ทอง โดยจุดเด่นของพระพุทธรูปองค์นี้ที่แปลกกว่าที่อื่น คือเป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในลักษณะนอนหงายขนาดเท่าคนโบราณยาวประมาณ 2 เมตร คล้ายกับพระนอนที่เมือง กุสินารา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นสถานที่ปรินิพพานของพระพุทธเจ้า

#เช่ารถ #รถเช่า นึกถึงรถเช่า นึกถึงECOCAR

ไอดีไลน์ @ecocar

Call Center 020024606

0922848660

www.ecocar.co.th

www.thairentecocar.com

www.thairentecocar.co.th

แหล่งอ้างอิง

https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดพระนอน-2

https://travel.trueid.net/detail/qREDD9e1Lx2o

http://www.welovesuphan.com/th/อำเภอเมือง/96-วัดพระนอน-และอุทยานมัจฉา-สุพรรณบุรี.html