จังหวัดนนทบุรี ถือว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ในเขตปริมณฑลหรือติดกับเมืองหลวงอย่างกรุงเทพอีกแห่งหนึ่งของไทย นนทบุรีเป็นจังหวัดฮิตที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เหมาะสำหรับท่องเที่ยวช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายสไตล์ และเดินทางได้สะดวก วันนี้เราจะพาทุกคนขับรถไปเที่ยวเช็คอิน 5 ที่เที่ยวนนทบุรี ที่ขับรถประมาณไม่ถึง 1 ชั่วโมง หรือจะนั่ง MRT สายสีม่วงไปแบบชิลๆ ก็เที่ยวนนทบุรีได้เหมือนกัน เรียกได้ว่าไม่ต้องหยุดยาวก็พร้อมลุยกับที่เที่ยวนนทบุรี ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ นอกจากสารพัดจุดเช็คอินหลากสไตล์แล้ว ยังเดินทางง่าย แค่ขับรถไปนนทบุรี ชั่วโมงเดียวก็ถึง! สำหรับผู้ที่กำลังจะวางแผนเดินทางไปที่นนทบุรีและกำลังมองหารถเช่านนทบุรีราคาถูก สามารถจองรถเช่าออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับ ECOCAR rent-a-car ได้ที่นี่เลยนะ รถเช่านนทบุรีราคาถูก
อ่านบทความเพิ่มเติมที่
เช่ารถนนทบุรี ขับเอง รายวัน ราคาถูก ที่ไหนดี
เกาะเกร็ด
เกาะเกร็ด นั้นเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อ OTOP เป็นอันดับต้นๆของโซนภาคกลาง เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ในด้านการผลิตสินค้าหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวไทยมอญที่ได้สืบทอดกันมายาวนานและการทำขนมมงคล
ซึ่งเกิดขึ้นจากการขุดคลองลัดแม่น้ำเจ้าพระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลม ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา เมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่า “คลองลัดเกาะเกร็ดน้อย” ต่อมากระแสน้ำเปลี่ยนทิศทางแรงขึ้นเซาะตลิ่งทำให้คลองขยาย แผ่นดินตรงแหลมจึ่งเกลายเป็นเกาะ มีชื่อเดิมว่า เกาะศาลากุน
มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม ร้านเครื่องปั้นดินเผาเล็กๆ น่ารัก ราคาถูก ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องปั้น ทางศิลปะแขนงต่างๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ บนเกาะเกร็ดยังมีกิจกรรมให้ทำกันอีกเยอะแยะ ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยานรอบเกาะ
อย่าพลาดจอดแวะลงเดินเลือกซื้อของฝากจำพวกเครื่องปั้นดินเผา และแวะชิมขนมไทย ทอดมันหน่อกะลา ข้าวแช่ กะละแม และคะนอนจิม อาหารชาวมอญโบราณ แล้วไปปิดท้ายด้วยการนั่งเรือกินลมชมทัศนียภาพรอบเกาะเกร็ดกันก็ได้
วัดกู้ (พระนางเรือล่ม)
วัดกู้ เป็นวัดในจังหวัดนนทบุรี เป็นที่รู้จักจากเหตุการณ์เรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้กับวัด อันนำมาสู่การสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี พระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขณะที่ตามเสด็จฯแปรพระราชฐานไปยังพระราชวังบางปะอิน พระองค์สิ้นพระชนม์พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพ็ชรรัตน์ โสภางคทัศนิยลักษณ์ อรรควรราชกุมารี พระราชธิดา และพระราชบุตรในพระครรภ์ซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นพระราชโอรสหรือพระราชธิดา
วัดกู้นั้นถูกสันนิษฐานว่าสร้างมาแต่สมัยกรุงธนบุรี โดย "พระยาเจ่ง" หัวหน้าครอบครัวมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในบริเวณเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี สันนิษฐานได้จากจิตรกรรมและศิลปะภายในวัดที่เป็นแบบมอญ เดิมเชื่อว่า " วัดกู้ " ตั้งชื่อตามเหตุการณ์กู้เรือและพระศพของของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีขึ้นมา แต่วัดกู้ เดิมชื่อวัดท่าสอน หรือ วัดหลังสวน เมื่อชาวมอญอพยพมาอยู่ ณ บริเวณนี้ พวกเขาเรียกพื้นที่นี้ว่า กวานกู้ ซึ่งเป็นภาษามอญแปลว่าบ้านไร่ ดังนั้นชื่อวัดกู้นี้จึงเกิดขึ้นมาก่อนเหตุการณ์ของพระนางเรือล่ม
บริเวณวัดยังมี "ศาลสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์" หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ศาลพระนางเรือล่ม" สร้างขึ้นในบริเวณที่เชื่อกันว่าเรือพระประเทียบของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวีล่ม ตัวศาลนั้นจำลองแบบจากศาลาจตุรมุขของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ในพระราชวังบางปะอิน ภายในประดิษฐานศาลและเรือที่กู้ขึ้นมา แต่แท้จริงแล้วสถานที่เกิดเหตุอยู่ที่หน้าวัดเกาะพญาเจ่ง หรือวัดเกาะบางพูด โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้สร้างพระเจดีย์เป็นพระราชอนุเสาวรีย์ขึ้นยังตำแหน่งที่เกิดเหตุ ณ ที่นั่น
ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี
ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า) ตั้งอยู่ บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ใกล้กับหอนาฬิกา เป็นอาคารไม้สักเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ลักษณะอาคารสร้างด้วยไม้สัก เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ประยุกต์ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อนหันหน้าออกสู่แม่น้ำ เป็นอาคาร 2 ชั้นก่ออิฐถือปูน มี7 หลัง วางผังเป็นรูป สี่เหลี่ยมผืนผ้า ล้อมรอบลานกว้าง เชื่อมต่อด้วยระเบียงทางเดินทำด้วยไม้ที่ยื่นออกมารอบอาคารด้วยคุณค่าทางสถาปัตยกรรม และความสำคัญทางประวัติศาสตร์ กรมศิลปากรจึงขึ้นทะเบียนอาคารหลังนี้เป็นโบราณสถานในปี พ.ศ. 2524
เดิมจุดประสงค์ให้เป็น โรงเรียนกฎหมาย แต่เนื่องจากยังไม่มีบุคลากร จึงได้ใช้เป็นที่ตั้งโรงเรียนราชวิทยาลัย ซึ่งได้เปิดสอนตั้งแต่ปี พ.ศ. 2454 -2469 และได้ยุบโรงเรียนราชวิทยาลัย โดยโอนย้ายนักเรียนไปรวมกับโรงเรียมหาดเล็กกรุงเทพ ต่อมาได้รับพระราชทานนามใหม่จาก รัชกาลที่ 7 ว่า
“วชิราวุธวิทยาลัย” อาคารหลังนี้จึงได้ใช้เป็นศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ระหว่างปี พ.ศ.2471 – 2535 จากนั้นใช้เป็น ที่ตั้งวิทยาลัยมหาดไทย จนถึงปี พ.ศ.2551 นับจากปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป อาคารหลังนี้ได้รับการอนุรักษ์ และปรับปรุงให้เป็นที่ตั้ง พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี อันเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดนนทบุรีอย่างครบถ้วน เพื่อสร้างความรู้ ความภาคภูมิใจ และความรักในท้องถิ่นให้แก่ชาวนนทบุรี
โดยพิพิธภัณฑ์นี้เป็นแหล่งรวบรวม เก็บรักษา และจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตลอด จนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชาวนนทบุรี วันเปิดทำการ วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00 – 18.00 น. เปิดให้เข้าชมฟรี
ท่าน้ำนนท์
ท่าน้ำนนทบุรี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า " ท่าน้ำนนท์ หรือ ท่าน้ำพิบูลสงคราม 3 " เป็นท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลายท่าใกล้เคียงกัน ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่าและหอนาฬิกาจังหวัดนนทบุรี ถนนประชาราษฎร์ เขตเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วยท่าเรือด่วนเจ้าพระยาและท่าเรือข้ามฟาก
ท่าน้ำนนท์ ถือเป็นท่าเรือต้นทางของเรือด่วนเจ้าพระยาก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นท่าจุดจอดเรือทุกสายในฝั่งนนทบุรี มีตลาดนนท์ ตลาดชุมชนขนาดใหญ่ ร้านรวงขึ้นชื่อมากมาย และมีท่ารถประจำทางอยู่ไม่ไกล แสดงให้เห็นความเป็นศูนย์กลางความคึกคักของคนนนทบุรีอีกจุดหนึ่ง เพื่อนๆสามารถถ่ายรูปหอนาฬิกาซึ่งเป็นสัญลักษณ์เด่นของท่าน้ำนนท์ก็ได้
วัดชมภูเวก
วัดชมภูเวก ตั้งอยู่แถวสนามบินน้ำ ซ.นนทบุรี 33 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของจังหวัดนนทบุรี เป็นวัดมอญสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สถาปัตยกรรมของวัดชมภูเวกที่มีความเก่าแก่ถึง 350 ปีนี้ เป็นศิลปะผสมผสานระหว่าง ไทย มอญ จีน พม่า และของชาวตะวันตก
สิ่งที่โดดเด่น คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณอันงดงาม ทั้งสี่ด้านมีภาพจิตรกรรมสีฝุ่นผสมกาวตามแบบอยุธยาตอนกลางฝีมือช่างสกุลนนทบุรีในยุคนั้นแสดงเรื่องราวทศชาติชาดกและพุทธประวัติ มีพระมุเตา หรือ เจดีย์ทรงมอญและเสาหงส์สัญลักษณ์ของวัดมอญ ตั้งอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ เชื่อว่าภายในบรรจุพระบรมธาตุ พระอุโบสถหลังเดิม มีอายุเก่าแก่
ลักษณะเด่นของอุโบสถเก่านี้คือ ถูกออกแบบให้มีประตูเข้า-ออก ทางด้านหน้าด้านเดียวตามคติมอญ เรียกว่า “โบสถ์มหาอุต” ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณ โดยเฉพาะภาพของพระแม่ธรณีที่อยู่บริเวณผนังเหนือประตูทางเข้า โดยมีรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมในท่วงท่าที่อ่อนช้อยงดงามอยู่ในซุ้มเรือนแก้วยอดแหลมได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพแม่พระธรณีที่งดงามที่สุดภาพหนึ่งของเมืองไทย
นอกจากนี้ยังมีจิตกรรมฝาผนังภาพเด่นๆอีกก็คือ ภาพทศชาติชาดกที่ผนังด้านข้างระหว่างช่องหน้าต่าง และภาพเหล่าเทวดากำลังไหว้พระธาตุจุฬามณีบนสวรรค์ ส่วนผนังหลังพระประธานนั้น ตรงกลางเขียนซุ้มเรือนแก้วใหญ่เป็นฉาก พื้นผนังเป็นลายดอกไม้ร่วง ด้านข้างทั้งสองเป็นรูปอดีตพระพุทธเจ้า สำหรับองค์พระประธานภายในอุโบสถเก่า เป็นพระประธานจำลองปางมารวิชัยถอดแบบของเก่าสมัยสุโขทัย ติดกับพระอุโบสถหลังเดิม คือ อุโบสถหลังใหม่เป็นลักษณะทรงไทยใต้ถุนสูง 2 ชั้น หลังคาลดหลั่น 3 ชั้น มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ หน้าบัน ซุ้มหน้าต่าง และประตูประดับด้วยกระจก จิตกรรมฝาผนังภายในอุโบสถหลังใหม่นี้ เป็นภาพเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวพุทธประวัติ ตามบานประตูหน้าต่างเขียนลายเทพพนม เป็นที่ประดิษฐานพระประธานศิลปะสุโขทัยและพระพุทธรูปยืนอีก 2 องค์วัดแห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ
รถยนต์ส่วนตัว
ใช้ทางคู่ขนานลอยฟ้า บรมราชชนนี, ถนนราชพฤกษ์ และถนนหมายเลข 302 ไปทาง ตำบลบางกระสอ เทศบาลนครนนทบุรี
ขนส่งสาธารณะ
เป็นยังไงกันบ้างกับที่เที่ยวประจำจังหวัดนนทบุรีทั้ง 5 แห่ง น่าสนใจเลยใช่มะ เพื่อนๆสามารถเดินทางไปเที่ยวได้หลายวิธีเลยนะ ทั้งนั่งรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง หรือ จะนั่งรถประจำทางก็ได้ หรือจะนั่งเรือก็ได้ หรือที่อยากแนะนำเลย คือการเช่ารถขับเองกับ ECOCAR rent-a-car ของเราได้เลยนะ เพราะที่นี่มีสาขาใกล้กับ MRT สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เช่าไม่แพงเลย เริ่มต้นที่ 1,070 บาท/วัน รถยนต์ทุกคันมีคุณภาพมากกว่า 600 คัน ผ่านการตรวจสภาพและอายุใช้งานไม่เกิน 5 ปีทุกคัน มากด้วยประสบการณ์ในการให้บริการรถเช่ามากกว่า 8 ปี สามารถขับรถไปเที่ยวนนทบุรีและทุกที่ทั่วไทย มีน้ำมันเติมให้เต็มถัง มีประกันภัยชั้นหนึ่งให้ด้วย มีบริการรถเช่าทั้งแบบขับเองและพร้อมคนขับ หากสนใจเช่ารถนนทบุรีเพื่อขับรถไปเที่ยวนนทบุรีกับเรา อย่าลืมหาเช่ารถกับ ECOCAR rent-a-car นะ