ค้นหาบทความ :


สถานที่ท่องเที่ยว /เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ตอนที่ 1: วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง


share : Exclusive Exclusive Exclusive
2 ครั้ง
Created : 03-10-2024
wat phra tat Lampang luang

เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ตอนที่ 1: วัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง



                สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับการ “เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดราศีพฤษภ” หลังจากที่ข้าพเจ้าได้เขียนเกี่ยวกับ “เช่ารถตามหาของขลัง” และ “เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดวันอังคาร” มาแล้วหลายตอนหลายเวลา

   บัดนี้ ข้าพเจ้าใคร่ขอเรียนเชิญท่านผู้อ่านที่เป็นชาวราศีพฤษภ หรือมีคนรักเป็นชาวราศีพฤษภ มาไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลและเสริมดวงชะตา โดยในครั้งแรกข้าพเจ้าจะพาท่านแอ่วเหนือไปยังจังหวัดลำปาง ณ อารามที่มีชื่อว่า “วัดพระธาตุลำปางหลวง”

   ถ้าท่านต้องการเดินทางไปยัง “วัดพระธาตุลำปางหลวง” จ.ลำปาง แต่ท่านไม่มีรถยนต์ส่วนตัว โปรดมาเช่ารถกับเรา Ecocar ข้าพเจ้ารับรองว่าท่านจะได้พบกับความสะดวกสบายแน่นอนครับ

 

 

   สามารถจองเช่ารถกรุงเทพ กับ ECOCAR rent-a-car ได้เลย

 

เช่ารถกรุงเทพ ราคาเท่าไหร่ ? สามารถสอบถามเรื่อง รถเช่ารายวัน ของ ECOCAR rent-a-car ได้เลย โดยจะมีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง, รถกระบะ, รถยนต์หรู รวมไปถึง รถ 7 ที่นั่ง SUV และ รถตู้ สามารถสอบถามได้ เพียงแอดไลน์ @ecocar ได้เลย พร้อมเอกสารเบื้องต้น อาทิ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และ บัตรเครดิต หากไม่มีส่วนนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ว่าจะเป็นเอกสารแบบไหนแทนได้

 

แนะนำเส้นทาง

          ข้าพเจ้าเริ่มต้นที่ Ecocar สาขาดอนเมือง เลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จนบรรจบถนนพหลโยธินที่แยกอนุสรณ์สถาน วิ่งไปตามถนนพหลโยธินต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับบางปะอิน1 ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 วิ่งไปสักพักใหญ่ จนกระทั่งบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธินอีกครั้งที่แยกหลวงพ่อโอ ให้ท่านเดินทางไปตามถนนพหลโยธินสักระยะหนึ่ง จนกระทั่งท่านสังเกตเห็นหมวดทางหลวงนครสวรรค์ที่1 และสวนเฉลิมพระเกียรติ 76 พรรษา ให้ท่านชิดซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 122 หรือถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ให้ท่านวิ่งไปตามถนนเส้นนี้จนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับหนองตะโก ท่านโปรดเลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธินอีกครั้งหนึ่ง ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินจนกระทั่งถึงจังหวัดลำปาง ให้ท่านสังเกตป้ายลูกศรสีเขียวที่บอกทางให้ชิดซ้ายเข้าอำเภอเกาะคา ท่านโปรดชิดซ้ายเพื่อเข้าถนนพหลโยธินสายเก่า บนทางแยกที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง เมื่อท่านชิดซ้ายแล้วให้ท่านขับบนถนนพหลโยธินสายเก่าไม่นาน ท่านจะเจอกับสามแยกไฟแดงรูปตัว T มีธนาคารกรุงเทพสาขาอำเภอเกาะคาอยู่บริเวณทางสามแพร่ง ท่านโปรดเลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1034 ขับไปไม่นานท่านจะผ่านที่ว่าการอำเภอเกาะคา เมื่อผ่านสถานที่ดังกล่าวแล้วจะมีสามแยกไฟแดงรูปตัว T ให้ท่านเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1034 ขับไปสักครู่ ไม่นานท่านจะเจอกับวัดพระธาตุลำปางหลวง อันเป็นจุดหมายปลายทาง อยู่ด้านซ้ายมือ

 

วัดพระธาตุลำปางหลวง

          วัดพระธาตุลำปางหลวง ตั้งอยู่ ณ ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา โดยเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยพระนางจามเทวี ราวปลายพุทธศตวรรษที่20

 

   สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ พระธาตุลำปางหลวง มีฐานเป็นบัวลูกแก้ว สำหรับองค์พระธาตุเป็นแบบทรงกลมแบบล้านนา ภายนอกบุด้วยทองจังโก ยอดฉัตรทำด้วยทองคำ มีลายสลักดุนเป็นลวดลายประจำยามแบบต่างๆ อย่างไรก็ดี ลักษณะเจดีย์ดังกล่าวนั้น คือต้นแบบของพระธาตุหริภุญไชยและพระบรมธาตุจอมทอง ภายในองค์พระเจดีย์บรรจุพระนลาฎข้างขวา พระศอด้านหน้าและด้านหลัง

 

 

   พระธาตุลำปางหลวงมีตำนานเล่าขานกันว่า เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล สมเด็จพระตถาคต พร้อมด้วยพระเถระสามองค์ได้เสด็จจาริกไปตามบ้านเมืองต่างๆ จนถึงบ้านลัมภะการีวัน(บ้านลำปางหลวง)พระพุทธองค์ได้ประทับเหนือดอยม่อนน้อย มีชาวลัวะคนหนึ่งชื่อลัวะอ้ายกอน เกิดความเลื่อมใสได้นำน้ำผึ้งบรรจุกระบอกไม้ป้างมะพร้าวและมะตูมมาถวายพระตถาคต พระพุทธองค์ได้ฉันน้ำผึ้งแล้วทิ้งกระบอกไม้ป้างไปทางทิศเหนือ แล้วทรงพยากรณ์ว่าสถานที่แห่งนี้ต่อไปจะมีชื่อว่า“ลัมพกัปปะนคร” จากนั้นจึงทรงลูบพระเศียรได้พระเกศามาหนึ่งเส้น มอบให้แก่ลัวะอ้ายกอนผู้นั้น ลัวะอ้ายกอนได้นำพระเกศานั้นบรรจุในผอบทองคำและใส่ลงในอุโมงค์พร้อมกับถวายแก้วแหวนเงินทองเป็นเครื่องบูชาแล้วแต่งยนต์ผัด(ยนต์หมุน)รักษาไว้ และถมดินให้เรียบเสมอกัน แล้วก่อเป็นพระเจดีย์สูงเจ็ดศอกเหนืออุโมงค์นั้น ในสมัยต่อมาได้มีกษัตริย์เจ้าผู้ครองนครลำปางอีกหลายพระองค์ มาก่อสร้างและบูรณะซ่อมแซมจนกระทั่งเป็นวัดที่มีความงามอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

   ประวัติของวัดพระธาตุลำปางหลวง มีความว่าเมื่อปี พ.ศ. 2275 นครลำปางว่างจากผู้ครองนครและเกิดความวุ่นวายขึ้น สมัยนั้นพม่าเรืองอำนาจได้แผ่อิทธิพลปกครองอาณาจักรล้านนาไว้ได้ทั้งหมด พม่าได้ยึดครองนครเชียงใหม่ ลำพูน โดยแต่งตั้งเจ้าผู้ครองนคร อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์พม่า ท้าวมหายศเจ้าผู้ครองนครลำพูนได้ยกกำลังมายึดนครลำปาง โดยได้มาตั้งค่ายอยู่ภายในวัดพระธาตุ ลำปางหลวง ครั้งนั้นหนานทิพย์ช้าง ชาวบ้านปงยางคก (ปัจจุบันอยู่อำเภอห้างฉัตร)วีรบุรุษของชาวลำปาง ได้รวบรวมพลทำการต่อสู้ทัพเจ้ามหายศ โดยลอบเข้ามาในวัด และใช้ปืนยิงท้าวมหายศตาย แล้วตีทัพลำพูนแตกพ่ายไป ปัจจุบันยังปรากฏรอยลูกปืนอยู่บนรั้วทองเหลืองที่ล้อมองค์พระธาตุเจดีย์ ต่อมาหนานทิพย์ช้างได้รับสถาปนาขึ้นเป็น พระยาสุลวะลือไชยสงคราม เจ้าผู้ครองนครลำปาง และเป็นต้นตระกูล

  • ณ ลำปาง
  • เชื้อเจ็ดตน
  • ณ เชียงใหม่
  • ณ ลำพูน
  • ณ น่าน

   นอกจากพระธาตุลำปางหลวงแล้ว ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีก คือ

  • กุฏิพระแก้ว

   เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วดอนเต้า (พระแก้วมรกต)อันเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปาง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะล้านนา สลักด้วยหยกสีเขียว ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างในปี พ.ศ. ใด แต่สันนิษฐานว่าสร้างมา 400 ปีแล้ว

  • ประตูโขง

   เป็นฝีมือช่างหลวงโบราณที่สวยงามก่ออิฐถือปูนทำเป็นซุ้มยอดแหลมเป็นชั้น ๆ มีสี่ทิศ ประดับตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้น รูปดอกไม้ และสัตว์ในหิมพานต์ ประตูโขงแห่งนี้ใช้เป็นสัญลักษณ์เมืองลำปางในตราจังหวัดลำปาง

  • วิหารหลวง

   เป็นวิหารประธานของวัด ตั้งอยู่บนแนวเดียวกับประตูโขงและองค์พระธาตุเจดีย์ เป็นวิหารจั่วรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงวิหารโล่งตามแบบล้านนายุคแรก หลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ภายในวิหารบรรจุมณฑปพระเจ้าล้านทอง ด้านในของแนวคอสอง มีภาพเขียนสีโบราณเรื่องชาดก

  • วิหารพระพุทธ

   ไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใดและใครเป็นผู้สร้าง แต่ประมาณอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี เดิมเป็นวิหารเปิดโล่งหน้าบัน เป็นลายดอกไม้ติดกระจกสีภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่เต็มอาคาร ก่ออิฐถือปูน ศิลปะเชียงแสน และยังปรากฏเงาพระธาตุภายในวิหารอีกด้วย

  • วิหารน้ำแต้ม หรือ วิหารภาพเขียนสี

   สร้างเมื่อ พ.ศ.2044 เป็นวิหารเปิดโล่งที่เก่าแก่ที่สุดอีกหลังหนึ่งทางภาคเหนือ ภายในเป็นรูปแบบของสถาปัตยกรรมไทยที่งดงาม ไม่มีฝ้าเพดานกำแพงด้าน พระประธาน เขียนภาพลายทองบนพื้นรักแดง มีภาพจิตรกรรมศิลปะล้านนาบนแผงไม้คอสองที่กล่าวกันว่าเก่าแก่ที่สุดและหลงเหลือเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย อายุราวพุทธ ศตวรรษที่ 21ลงมา แต่ปัจจุบันภาพเขียนลบเลือนไปมาก และประดิษฐานพระพุทธรูปสัมริดปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 1.25 เมตร สูง 1.25 เมตร

  • ซุ้มพระบาท

   สร้างครอบพระพุทธบาทไว้ ฐานก่อขึ้นเป็นชั้นคล้ายฐานเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. 1992 ภายในมองเห็นแสงหักเหปรากฏเป็นเงาพระธาตุ และพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น

  • วิหารพระเจ้าศิลา

   เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าศิลาซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงละโว้ เมื่อ พ.ศ. 1275 พระบิดาของ พระนางจามเทวีมอบให้ประดิษฐานไว้ ณ ที่นี้

  • พิพิธภัณฑ์

   รวบรวมศิลปวัตถุจากที่ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่นสังเค็ด ธรรมาสน์ คานหาบ ตู้พระไตรปิฎก เป็นต้น

 

ชื่อสถานที่: วัดพระธาตุลำปางหลวง

ที่ตั้ง: 271 หมู่2 ตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง 52130

เปิดทำการ: 07.30 – 17.00 น.

เฟซบุ๊ก: วัดพระธาตุลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง

 

 

 

#เช่ารถ #รถเช่า นึกถึงรถเช่า นึกถึงECOCAR 

ไอดีไลน์ @ecocar

Call Center 020024606

0922848660

www.ecocar.co.th

www.thairentecocar.com

www.thairentecocar.co.th

 

แหล่งอ้างอิง

https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดพระธาตุลำปางหลวง

https://lpg.onab.go.th/th/content/category/detail/id/110/iid/648

https://www.lampang.go.th/travel/weblp/page/page1.html

https://cbtthailand.dasta.or.th/webapp/relattraction/content/1030/

https://www.facebook.com/watpratartlampangluang/about?locale=th_TH


บทความที่น่าสนใจ

[9 วัดชื่อดังในอุบล] ไหว้พระ สวดมนต์ ทำบุญสักครั้ง ณ อุบลราชธานี

[10 ที่เที่ยวไม่ไกลกรุงเทพ] ระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร





สาขาของเรา