สถานที่ท่องเที่ยว /เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ตอนที่ 2 : วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย

ผู้เขียน : ทวีโรจน์ ผ่องเรียงสกุล

4 ครั้ง

Created : 04-10-2024

เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ตอนที่ 2 : วัดโพธิ์ชัย จ.หนองคาย

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ข้าพเจ้าเขียนบทความ “เช่ารถไหว้พระของผู้ที่เกิดราศีพฤษภ” ในครั้งที่แล้วข้าพเจ้าได้พาท่านแอ่วเหนือไปยังวัดพระธาตุลำปางหลวง จ.ลำปาง ครั้งนี้ขยับมาที่ภาคอีสานกันบ้าง โดยเราจะไปกันที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงอย่าง หนองคาย กับอารามที่มีชื่อว่า “วัดโพธิ์ชัย”

และถ้าท่านต้องการที่จะเดินทางไปวัดโพธิ์ชัย แต่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว โปรดมาเช่ารถกับทางเรา Ecocar ข้าพเจ้ารับรองว่าท่านจะพบกับความสะดวกสบายแน่นอนครับ

สามารถจองเช่ารถกรุงเทพ กับ ECOCAR rent-a-car ได้เลย

เช่ารถกรุงเทพ ราคาเท่าไหร่ ? สามารถสอบถามเรื่อง รถเช่ารายวัน ของ ECOCAR rent-a-car ได้เลย โดยจะมีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง, รถกระบะ, รถยนต์หรู รวมไปถึง รถ 7 ที่นั่ง SUV และ รถตู้ สามารถสอบถามได้ เพียงแอดไลน์ @ecocar ได้เลย พร้อมเอกสารเบื้องต้น อาทิ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และ บัตรเครดิต หากไม่มีส่วนนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ว่าจะเป็นเอกสารแบบไหนแทนได้

แนะนำเส้นทาง

ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นที่ Ecocar สาขาดอนเมือง วิ่งไปตามถนนวิภาวดีรังสิตจนบรรจบถนนพหลโยธินที่แยกอนุสรณ์สถาน วิ่งไปตามถนนพหลโยธินสักพักใหญ่ กระทั่งถึงทางแยกมิตรภาพให้เลี้ยวขวา เพื่อเข้าถนนหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ วิ่งบนถนนเส้นนี้ไปตลอดทาง จนกระทั่งถึงจังหวัดอุดรธานี เมื่อท่านถึงทางแยกต่างระดับบ้านจั่น ให้ท่านเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 216 วิ่งยาวๆจนกระทั่งบรรจบทางหลวงหมายเลข2 หรือถนนมิตรภาพอีกครั้งที่แยกหมี่ขิด ท่านโปรดเลี้ยวขวาแล้ววิ่งบนถนนมิตรภาพสักพักใหญ่จนกระทั่งเข้าเขตจังหวัดหนองคาย เมื่อท่านถึงทางแยกต่างระดับเคหะหนองคาย ให้ท่านตรงไปเพื่อบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข233 วิ่งไปเรื่อยๆจนกระทั่งท่านถึงแยกหนองคาย ให้ท่านเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 วิ่งบนถนนเส้นนี้ไปสักครู่ ไม่นานท่านจะเจอกับวัดโพธิ์ชัย ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ หรือท่านเสิร์ช GPS ค้นหา “วัดโพธิ์ชัย (หลวงพ่อพระใส) ก็สะดวกเช่นเดียวกัน

วัดโพธิ์ชัย

วัดโพธิ์ชัย ก่อตั้งเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2360 เดิมชื่อวัดผีผิว เนื่องจากเคยใช้เป็นสถานที่ฌาปนกิจ ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดโพธิ์ชัย” เพราะสมัยก่อนที่อารามนั้นมีต้นโพธิ์ที่ใหญ่โตมาก และเป็นต้นโพธิ์มหามงคล ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ เสด็จเป็นองค์ประธาน ยกช่อฟ้าพระอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ. 2522 และต่อมายกฐานะขึ้นเป็น พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ

ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อพระใส” พระพุทธรูปขัดสมาธิราบ ปางมารวิชัยทองหล่อสีสุก หน้าตักกว้าง 2คืบ 8นิ้ว ส่วนสูงจากพระชงฆ์เบื้องล่างถึงยอดพระเกศ ๔ คืบ ๑ นิ้ว เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดหนองคาย มีตำนานเล่าว่าธิดา 3พระองค์ของกษัตริย์ล้านช้างได้หล่อพระพุทธรูปขึ้น3องค์ และถวายนามพระพุทธรูปตามพระนามของแต่ละพระองค์ คือ “พระเสริม” เป็นพระประจำพระธิดาองค์ใหญ่ “พระสุก” ประจำพระธิดาองค์กลาง และ “พระใส”ประจำพระธิดาองค์เล็ก

เดิมทีนั้นหลวงพ่อพระใสถูกประดิษฐาน ณ เมืองเวียงจันทน์ ต่อมาใน พ.ศ. 2321 ตรงกับสมัยกรุงธนบุรี ได้อัญเชิญไปไว้ที่เมืองเวียงคำ และถูกเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดโพนชัย เมืองเวียงจันทน์อีก ต่อมาในรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ เมืองเวียงจันทน์เป็นกบฎ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิ์พลเสพย์ เป็นจอมทัพยกพลมาปราบ จึงได้อัญเชิญพระสุก พระเสริม และพระใส ลงมาด้วย โดยอัญเชิญมาจากภูเขาควายขึ้นประดิษฐานบนแพไม้ไผ่ ซึ่งผูกติดกันอย่างมั่นคงล่องมาตามลำน้ำงึม เมื่อล่องมาถึงตรงบ้านเวินแท่นในขณะนั้น เกิดอัศจรรย์แท่นของพระสุกได้เกิดแหกแพจมลงไปในน้ำ โดยเหตุที่มีพายุพัดแรงจัด และบริเวณนั้นได้นามว่า "เวินแท่น"

เมื่อล่องแพมาถึงแม่น้ำโขง ใกล้กับบ้านหนองกุ้ง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ได้เกิดพายุใหญ่ เสียงฟ้าคำรามคะนองร้องลั่น ในที่สุดพระสุกได้แหกแพจมลงไปในน้ำ ซึ่งอาการวิปริตต่างๆ ก็ได้หายไปเป็นอัศจรรย์ยิ่ง บริเวณนั้นจึงได้ชื่อว่า "เวินสุก" และพระสุกก็จมอยู่ในน้ำตรงนั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้

เหลือแต่พระเสริม พระใส ที่ได้นำขึ้นมาถึงเมืองหนองคาย พระเสริมนั้นได้ถูกอัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดโพธิ์ชัย ส่วนพระใส ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ วัดหอก่อง (ปัจจุบันคือวัดประดิษฐ์ธรรมคุณ)

ต่อมาในสมัยรัชกาลที่4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้ขุนวรธานีและเจ้าเหม็น (ข้าหลวง) อัญเชิญพระเสริม จากวัดโพธิ์ชัย หนองคายไปกรุงเทพฯและอัญเชิญพระใสจากวัดหอก่องขึ้นประดิษฐานบนเกวียนเพื่อที่จะอัญเชิญลงไปกรุงเทพฯด้วย แต่พอมาถึงวัดโพธื์ชัย หลวงพ่อพระใสได้แสดงปาฏิหาริย์จนเกวียนหักจึงอัญเชิญลงไปไม่ได้ ได้แต่พระเสริมลงกรุงเทพฯ ประดิษฐาน ณ วัดปทุมวนาราม ส่วนหลวงพ่อพระใสได้อัญเชิญประดิษฐาน ณ วัดโพธิ์ชัย อ.เมืองหนองคาย จนถึงปัจจุบัน ความอัศจรรย์ของหลวงพ่อพระใสจนได้สมญาว่า "หลวงพ่อเกวียนหัก"