ท่านผู้อ่านที่เกิดปีชวดหรือมีคนรักเป็นคนเกิดปีชวด แล้วต้องการไปไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกับตนเอง ขอแนะนำให้ไปที่ วัดพระบรมธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพระธาตุของอารามแห่งนี้นั้น ถือเป็นพระธาตุประจำปีชวดนั่นเอง
แต่ถ้าหากท่านต้องการไปไหว้พระที่วัดพระบรมธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว โปรดมาเช่ารถกับเรา Ecocar ข้าพเจ้าขอรับรองว่าท่านจะได้พบกับความสะดวกสบายแน่นอนครับ
สามารถจองเช่ารถกรุงเทพ กับ ECOCAR rent-a-car ได้เลย
เช่ารถกรุงเทพ ราคาเท่าไหร่ ? สามารถสอบถามเรื่อง รถเช่ารายวัน ของ ECOCAR rent-a-car ได้เลย โดยจะมีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง, รถกระบะ, รถยนต์หรู รวมไปถึง รถ 7 ที่นั่ง SUV และ รถตู้ สามารถสอบถามได้ เพียงแอดไลน์ @ecocar ได้เลย พร้อมเอกสารเบื้องต้น อาทิ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และ บัตรเครดิต หากไม่มีส่วนนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ว่าจะเป็นเอกสารแบบไหนแทนได้
ข้าพเจ้าเริ่มต้นทางที่ร้าน Ecocar สาขาดอนเมือง เลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิภาวดีรังสิต จนบรรจบถนนพหลโยธินที่แยกอนุสรณ์สถาน วิ่งไปตามถนนพหลโยธินต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับบางปะอิน1 ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบทางหลวงหมายเลข 32 วิ่งไปสักพักใหญ่ จนกระทั่งบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธินอีกครั้งที่แยกหลวงพ่อโอ ให้ท่านเดินทางไปตามถนนพหลโยธินสักระยะหนึ่ง จนกระทั่งท่านสังเกตเห็นหมวดทางหลวงนครสวรรค์ที่1 และสวนเฉลิมพระเกียรติ 76 พรรษา ให้ท่านชิดซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 122 หรือถนนเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ให้ท่านวิ่งไปตามถนนเส้นนี้จนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับหนองตะโก ท่านโปรดเลี้ยวซ้ายเพื่อบรรจบทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 หรือถนนพหลโยธินอีกครั้งหนึ่ง ใช้เส้นทางถนนพหลโยธินจนกระทั่งถึงจังหวัดลำปาง เมื่อท่านถึงแยกเถินบุรินทร์ ให้ท่านชิดซ้ายเพื่อเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 106 ขับบนถนนเส้นนี้สักพักใหญ่ๆ เมื่อท่านถึงหอนาฬิกาอำเภอบ้านโฮ่ง ให้ท่านเลี้ยวซ้าย เพื่อเข้าสู่ทางหลวงชนบท ลพ.3004 ให้ท่านวิ่งบนถนนเส้นนี้เรื่อยๆจนกระทั่งท่านสังเกตว่าถนนกำลังวิ่งเลียบแม่น้ำปิงซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายมือ เมื่อท่านขับไปเรื่อยๆท่านจะเจอป้ายบอกทางให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปอำเภอจอมทอง ให้ท่านเลี้ยวซ้ายตามป้าย จากนั้นขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำปิง โดยสะพานมีชื่อว่า สะพานทุ่งหมากหนุ่ม-หนองเขียดสามัคคี แล้วเมื่อท่านลงสะพานแล้วให้ขับตรงไปเรื่อยๆ ท่านจะบรรจบทางหลวงหมายเลข 108 ในอีกไม่นาน
เมื่อท่านเจอสี่แยกซึ่งมีเทศบาลตำบลสบเตี๊ยะ อยู่ ณ ทิศเบื้องหน้าของท่านแล้ว ให้ท่านเลี้ยวขวาเพื่อบรรจบทางหลวงหมายเลข 108 วิ่งไปสักระยะหนึ่งจนรถเข้าสู่อำเภอจอมทอง ให้ท่านขับไปเรื่อยๆ ท่านจะพบกับวัดพระบรมธาตุศรีจอมทองวรวิหาร อันเป็นจุดหมายปลายทางอยู่ทางด้านขวามือ หรือท่านเสิร์ช GPS ค้นหาคำว่า “วัดพระบรมธาตุศรีจอมทอง” ก็สะดวกเช่นเดียวกัน
วัดพระบรมธาตุศรีจอมทองวรวิหาร เดิมชื่อ วัดพระธาตุเจ้าศรีจอมทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2470
บริเวณที่ตั้งของวัดเป็นเนินดินสูงประมาณ 10 เมตร เรียกกันมาตั้งแต่อดีตว่า ดอยจอมทอง ตามประวัติสันนิษฐานว่า เป็นวัดที่สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 20 โดยตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในพ.ศ. 1995 แต่จากลักษณะทางศิลปกรรมของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในวัด ปรากฏเป็นลักษณะของศิลปกรรม ในสมัยหลัง พุทธศตวรรษที่ 24 ซึ่งเป็นห้วงระยะเวลาของยุคฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่
จุดเด่นของอารามแห่งนี้ คือ พระเจดีย์ศรีจอมทอง อันเป็นพระเจดีย์สีทองอร่าม ถูกสร้างแบบศิลปะล้านนา บริเวณฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยม เรียกว่า ฐาน“ย่อเก็จ” ส่วนบริเวณยอดเป็นฐานวงกลมซ้อนลดหลั่นกัน 3 ชั้น อย่างไรก็ตามชั้นฐานที่รองรับองค์ระฆังเป็นบัวฐานปัทม์ชนิดกลมเช่นเดียวกับเจดีย์ของวัดพระธาตุแช่แห้ง วัดพระธาตุดอยสุเทพ และวัดพระธาตุหริภุชัย เป็นต้น
เป็นสถานที่ประดิษฐาน ของพระทักษิณโมลีธาตุ พระธาตุส่วนที่เป็นพระเศียรเบื้องขวาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีขนาดเท่าเมล็ดพุทรา สัณฐานกลมเกลี้ยง สีขาวนวลเหมือนดอกบวบ หรือสีคล้ายดอกพิกุลแห้ง
มีตำนานอันกล่าวถึงความเป็นมาของพระบรมธาตุศรีจอมทองว่า สมเด็จพระตถาคตทรงมีพุทธพยากรณ์ไว้กับพญาอังครัฏฐะ ผู้ครองอังครัฏฐะ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้บริเวณดอยจอมทองว่า สถานที่แห่งนี้ต่อไปภายหน้าจะเป็นที่ประดิษฐานพระทักษิณโมลีธาตุ (พระเศียรเบื้องขวา) ของพระองค์
ต่อมาเมื่อสมเด็จพระตถาคตเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว โทณพราหมณ์ได้จัดแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้แก่กษัตริย์ทั้ง 8 นคร ซึ่งในครั้งนั้น มัลลกษัตริย์แห่งเมืองกุสินาราทรงได้พระทักษิณโมลีธาตุไว้ พระมหากัสสปะเถระเจ้าประธานฝ่ายสงฆ์ได้กราบทูลเรื่องพุทธพยากรณ์ที่พุทธองค์เคยตรัสไว้ มัลลกษัตริย์จึงถวายพระบรมธาตุแด่พระมหากัสสปะเถระ ซึ่งท่านได้อัญเชิญพระบรมธาตุวางไว้บนฝ่ามือ แล้วอธิษฐานอาราธนาพระบรมธาตุไปยังดอยจอมทอง เพื่อประทับอยู่ในโกศแก้วอินทนิลภายในเจดีย์ทองคำที่พญาอังครัฏฐะได้สร้างถวาย
นอกจากพระเจดีย์ศรีจอมทองอันเป็นจุดเด่นของวัดแล้วนั้น ภายในวัดยังมีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจอีก ได้แก่
มีลักษณะทรงไทยหน้าบันลงปิดทองสวยงาม
เป็นอาคารสองชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้สำหรับเก็บพระไตรปิฎก
สร้างขึ้นเพื่อให้เป็นคู่กับพระเจดีย์องค์ใหญ่ ให้เกิดการสมดุลกัน ภายในบรรจุสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย แต่ไม่ได้บรรจุพระธาตุไว้ และพระวิหารจัตุรมุขซึ่งภายในพระวิหารมีมณฑปปราสาทเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งล้วนเป็นลักษณะของศิลปกรรมในสมัยหลังพุทธศตวรรษที่ 24 อันเป็นยุคฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 โดยพระเดชพระคุณพระธรรมมังคลาจารย์ วิ. (พระอาจารย์ทอง สิริมงฺคโล) โดยในขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์ที่ พระสุพรหมายาน วิ. ซึ่งได้รับพระบัญชาจากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสพระอารามหลวง วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร จึงได้ทำการฟื้นฟูและส่งเสริมการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในแนวสติปัฏฐาน 4 โดยริเริ่มก่อตั้งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมขึ้น มีการซื้อที่ดินขยายพื้นที่ในการก่อสร้างกุฏิ อาคาร และศาลาต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีผู้สนใจมาฝึกปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกันเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันสำนักปฏิบัติธรรมวัดพระธาตุศรีจอมทองสามารถรองรับผู้เข้าปฏิบัติธรรมหรือกลุ่มคณะบุคคลผู้สนใจได้ พร้อมกันเป็นจำนวนมากอีกทั้งในยังเป็นสำนักปฏิบัติธรรมที่สามารถผลิตบุคคลากรด้านวิปัสสนา ซึ่งเรียกว่า พระวิปัสสนาจารย์ ส่งออกไปเผยแผ่ได้เป็นจำนวนมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ชื่อสถานที่: วัดพระบรมธาตุศรีจอมทอง
ที่ตั้ง: 157 หมู่2 ถนนเชียงใหม่-ฮอด ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160
เปิดทำการ: 7.00 – 18.00 น.
โทรศัพท์: 053341725
053826869
เฟซบุ๊ก: วัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหาร
#เช่ารถ #รถเช่า นึกถึงรถเช่า นึกถึงECOCAR
ไอดีไลน์ @ecocar
Call Center 020024606
0922848660
www.ecocar.co.th
www.thairentecocar.com
www.thairentecocar.co.th
https://www.watchomtong.com/copy-of-meditation-home
https://travel.trueid.net/detail/wAE9bPgDqwRA
https://thai.tourismthailand.org/Attraction/วัดพระธาตุศรีจอมทอง
https://www.silpa-mag.com/history/article_42740
https://cbtthailand.dasta.or.th/webapp/relattraction/content/1768/
https://phramahathat.com/th/รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว/04jGX
https://www.facebook.com/watchomtong/
https://thailandtourismdirectory.go.th/attraction/3773