ค้นหาบทความ :


สถานที่ท่องเที่ยว /เช่ารถตามหาของขลัง ตอนที่ 1 : วัดสามง่าม


share : Exclusive Exclusive Exclusive
0 ครั้ง
Created : 09-09-2024
wat sam ngam

เช่ารถตามหาของขลัง ตอนที่ 1 : วัดสามง่าม



      ปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุคนี้ผู้คนต่างแสวงหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมากมาย เราจึงพบเห็นผู้คนจากทุกสารทิศต่างแวะเวียนมาสักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาเพื่อเช่าวัตถุมงคลตามวัดวาอาราม หรือไปยังสถานที่ประดิษฐานรูปปั้นเทพเจ้าจีนหรือเทพเจ้าฮินดู แม้กระทั่งไปตามสถานที่ต่างๆซึ่งลือกันว่าเป็นที่สถิตของพญานาค โดยในปัจจุบันหลายคนมักจะเรียกพฤติกรรมดังกล่าวแบบเหมารวมกันว่า “มูเตลู  

      แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้วคำว่า “มูเตลู” นั้น มีรากศัพท์มาจากภาษาอินโดนีเซีย แปลว่า  “มนต์ดำ ซึ่งคงไม่เหมาะสมนักหากนำมาใช้ในบริบททั่วไปที่ผู้คนกระทำกัน ณ ขณะนี้ เพราะพฤติกรรมที่หลายคนกระทำอยู่นั้นมันค่อนไปทาง “มนต์ขาว” หรือ เมตตามหานิยม เสียมากกว่า

      แต่ครั้งนี้ข้าพเจ้าจะมาแนะนำการเช่ารถเพื่อไปเสาะแสวงหา “ของขลัง” ซึ่งหมายถึง “วัตถุมงคล”ต่างๆ ตามวัดวาอารามที่มีชื่อเสียง ข้าพเจ้าเชื่อเหลือเกินว่า ท่านผู้อ่านที่เป็นสาย “ของขลัง” หลายท่าน อยากเดินทางไปเสาะแสวงหาของขลังด้วยตัวท่านเอง แต่ไม่มียานพาหนะส่วนตัวที่จะไปประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์บางแห่งนั้นอยู่ลึกเข้าไปข้างใน รถประจำทางเข้าไม่ถึง คงเป็นการลำบากแน่หากจะไปเสาะแสวงหาเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลต่างๆ 

      ฉะนั้นการเช่ารถจึงเป็นคำตอบสุดท้ายในการที่เสาะแสวงหาของขลังต่างๆ แต่เนื่องจากสถานที่ๆมีเครื่องรางของขลังตลอดจนวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์นั้นมีมากมายหลายแห่ง ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงขอแบ่งการเขียนเป็นตอนๆ โดยเริ่มตอนแรกที่ วัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม และแน่นอนว่าของขลังที่นี่ไม่ใช้ “มูเตลู” หรือ “มนต์ดำ” แต่อย่างใด แต่เป็น “มนต์ขาว” หรือ “เมตตามหานิยม” 100 % ถ้าท่านผู้อ่านพร้อมแล้วก็เชิญทัศนาได้เลยครับ

 

 

#รถเช่า ECOCAR  #เช่ารถ ECOCAR รถเช่าที่คุณวางใจ เช่ารถง่ายได้รถไว ใครใครก็เช่าได้ เพื่อเดินทางไปวัดสามง่าม

สามารถจองเช่ารถกรุงเทพ  กับ ECOCAR rent-a-car ได้เลย

เช่ารถกรุงเทพ  ราคาเท่าไหร่ ? สามารถสอบถามเรื่อง รถเช่ารายวัน ของ ECOCAR rent-a-car ได้เลย โดยจะมีรถยนต์หลากหลายรูปแบบที่จะให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง, รถกระบะ, รถยนต์หรู รวมไปถึง รถ 7 ที่นั่ง SUV และ รถตู้ สามารถสอบถามได้ เพียงแอดไลน์ @ecocar ได้เลย พร้อมเอกสารเบื้องต้น อาทิ บัตรประชาชน, ใบขับขี่ และ บัตรเครดิต หากไม่มีส่วนนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ว่าจะเป็นเอกสารแบบไหนแทนได้

 

แนะนำเส้นทาง

      เริ่มจากต้นทางคือ Ecocar สาขาดอนเมือง เลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิภาวดีรังสิต วิ่งจนสุดสายที่แยกอนุสรณ์สถาน รถจะบรรจบกับถนนพหลโยธิน ให้ขับรถต่อเนื่องไปจนกระทั่งถึงทางแยกต่างระดับรังสิต แล้วให้เลี้ยวซ้าย วิ่งไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 346 วิ่งไปจนกระทั่งถึงแยกบางพูนแล้วให้เลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 345 วิ่งไปจนถึงแยกบางบัวทอง แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนบางบัวทอง-สุพรรณบุรี หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 340 ขับตรงไปบนถนนสายนี้เรื่อยๆจนกระทั่งถึงแยกนพวงศ์ จึงเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 346 ขับไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงโลตัสบางเลนแล้วเลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3296 ขับบนถนนเส้นนี้ไปเรื่อยๆจนบรรจบทางหลวงหมายเลข 375 ขับตามถนนเส้นนี้ไปเรื่อยๆ จะเห็นปากทางเข้าวัดสามง่ามทางขวามือ ให้เตรียม U-turn  แล้วหลังจาก U-turn แล้ว ก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนปากทางเข้าวัดสามง่าม จากนั้นขับตรงไปสักระยะหนึ่ง ปลายทางจะอยู่ทางซ้ายมือ หรือเปิด GPS ค้นหา “วัดสามง่าม ก็ได้เช่นเดียวกัน

 

วัดสามง่าม

   สำหรับประวัติของวัดสามง่าม จากข้อมูลของ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศสำนักสงฆ์ภาค 14 ระบุว่า

   วัดอรัญญิการาม หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดสามง่าม เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 81บ้านสามง่าม หมู่ที่ 5 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม พื้นที่ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 39 ไร่ 73 ตารางวา มีอาณาเขตดังนี้

ทิศเหนือ ยาวประมาณ 50 เมตร จรดริมคลอง

ทิศใต้ ยาวประมาณ 50 เมตร จรดถนนคงทอง

ทิศตะวันออก ยาวประมาณ 100 เมตร จรดกำแพงวัด

ทิศตะวันตก ยาวประมาณ 100 เมตร จรดกำแพงวัด

 

 

  • ลักษณะพื้นที่โดยทั่วไปของบริเวณที่ตั้งวัด

   ลักษณะพื้นที่ของวัด---ด้านหน้าวัดติดถนน ด้านหลังวัดติดคลองพื้นที่เหยียดยาวขนานไปตามถนนและลำคลอง มีกำแพงคอนกรีตล้อม 3 ด้าน ตะวันออกเฉียงใต้และด้านตะวันตกติดถนน ส่วนทิศเหนือติดลำคลองมีน้ำหลากในฤดูฝน

   ในบริเวณวัดแบ่งพื้นที่เป็น 3 ตอน ตอนตะวันออกเป็นเขตพุทธาวาส ตอนกลางเป็นเขตสังฆาวาส ตอนตะวันตกเป็นเขตสุสาน บริเวณอารามเป็นที่ร่มเย็นแบบอรัญญิก หรืออุทยานศาสนามีต้นไม้ใหญ่นานาพันธุ์ร่มรื่นดี

 

  • ประวัติความเป็นมาของวัดสามง่าม

   เดิมวัดสามง่ามนั้นตั้งอยู่บ้านดอนตูม หมู่ที่ 8 ตำบลสามง่าม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เมื่อพ.ศ. 2447 มีเนื้อที่ทั้งหมด 33 ไร่ มีพระอธิการแดงเป็นเจ้าอาวาส และได้พิจารณาเห็นว่า ในหมู่บ้านดอนตูมนั้นมีประชาชนอยู่จำนวนน้อย อีกทั้งประชาชนได้อพยพครอบครัวไปอยู่ในถิ่นอื่นเป็นจำนวนมากจะทำให้วัดไม่เจริญ ดังนั้น พระอธิการแดง จึงได้พิจารณาย้ายวัดมาตั้งขึ้นที่บ้านสามง่าม หมู่ที่ 5 ตำบลสามง่าม อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอดอนตูม) เมื่อ พ.ศ. 2447 มาจนทุกวันนี้

 

 

   ต่อมาเจ้าอธิการเต๋ คงทอง ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. 2475 ครั้งมาใน พ.ศ. 2476 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลสามง่าม แต่เดิมมาวัดนี้ยังไม่เจริญทั้งในด้านวัตถุ และด้านการเรียนพระปริยัติธรรม ตลอดทั้งการศึกษาของประชาชนและการอนามัย การคมนาคม ไปมาติดต่อกันด้วยความลำบากยิ่ง เมื่อเจ้าอธิการเต๋ คงทอง ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะตำบลแล้วท่านได้พิจารณาในด้านต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว ท่านจึงได้พยายามทำนุบำรุงวัดและทำการจัดการก่อสร้างถาวรวัตถุให้เจริญถาวรพร้อมทั้งบำรุงในด้านการศึกษาพระปริยัติธรรมและการศึกษาของเยาวชนพร้อมทั้งในด้านการอนามัย การคมนาคม ดังได้กล่าวต่อไปนี้ การสร้างถาวรวัตถุภายในวัดนั้นท่านได้พยายามก่อสร้างบำรุงสิ่งต่างๆ เช่น สร้างกุฏิถาวรขึ้นภายในวัด รวม 11 หลัง หอสวดมนต์ 1 หลัง โรงเรียนพระปริยัติธรรม 1 หลัง ศาลาการเปรียญ 1 หลัง เมรุเผาศพตามสุขลักษณะ 1 หลัง และได้สร้างกำแพงวัดโดยรอบ สร้างอุโบสถขึ้นใหม่ 1 หลังเป็นแบบจตุรมุข พร้อมศาลาจตุรมุข ทั้ง 4 ด้าน ได้พระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2506 ทำการผูกพัทธสีมาในเดือนมีนาคม 2509 จนกระทั่ง เจ้าอธิการเต๋ ได้มรณภาพเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2524 รวมอายุได้ 90 ปี พอดี ต่อมาพระอธิการแย้ม  ฐานยุตฺโต ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสรูปต่อมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2525 พระอธิการแย้ม  ฐานยุตฺโต ก็ได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสและปกครองพระภิกษุสามเณรอย่างมีระเบียบทั้งยังได้พัฒนาวัดให้รุ่งเรืองขึ้น ๆ ไป เจริญรอยตามอย่างเจ้าอธิการเต๋ คงทอง ทุกประการ

 

 

- ปูชนียวัตถุ - โบราณวัตถุ

1. พระประธานที่ตั้งสถิตอยู่ในอุโบสถของวัดนี้ เป็นพระประธานที่สำคัญองค์หนึ่ง คือเป็นพระที่สร้างขึ้นมา เมื่อ พ.ศ.2523 ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ มีขนาดหน้าตักกว้าง 59 นิ้ว สูง 69 นิ้ว เป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนมีความศรัทธาเลื่อมใสและเป็นพระคู่กับวัดจนทุกวันนี้

2. พระประธานที่ตั้งสถิตอยู่ในหอสวดมนต์ เป็นพระประธานที่สำคัญอีกองค์หนึ่งเหมือนกัน คือ เป็นพระที่สร้างขึ้นมาในสมัยรัตนโกสินทร์ตรงกับรัชกาลที่ 5 เป็นพระประธานขนาดใหญ่ คือ มีหน้าตักกว้าง 45 นิ้ว สูง 50 นิ้ว และทำด้วยทองสัมฤทธิ์เป็นพระที่อยู่คู่วัดนี้มาตลอด ตั้งแต่สร้างวัดนี้ขึ้นมา และเป็นที่ศรัทธานับถือของชาวบ้าน ในเขตนี้ตลอดมา

- เสนาสนะและสิ่งปลูกสร้าง

1. อุโบสถ

กว้าง 30 เมตร ยาว 60 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2508 ลักษณะทั่วไปเป็นอุโบสถจัตุรมุข อุโบสถมีเสาหาญกว้าง 12 เมตร ยาว 41 เมตร สูง 21 เมตร มีกำแพงแก้วชั้นใน กว้าง 42 เมตร ยาว 52 เมตร และมีกำแพงชั้นนอกสุด โดยรอบมีความยาว1,360 เมตร ความสูง 2 เมตร มีประตูเข้า 4 ทิศ มีท่อระบายและฟุตบาทด้านนอกกำแพงโดยรอบ

2. ศาลาการเปรียญ

กว้าง 16 เมตร ยาว 32.50 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2490 ลักษณะทั่วไปเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง

3. หอสวดมนต์

กว้าง 10 เมตร ยาว 14.50 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2499 ลักษณะทั่วไปเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น หลังคามุงกระเบื้อง ชั้นล่างเป็นหอฉัน ชั้นบนเป็นหอสวดมนต์

๔. กุฏิ

จำนวน 2 หลัง

หลังที่ 1 กว้าง 6.50 เมตร ยาว 14.50 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2492 ลักษณะทั่วไปเป็นกุฏิที่ก่อด้วยอิฐถือปูน ชั้นบนเป็นไม้หลังคามุงกระเบื้อง มีห้องทั้งหมด 5 ห้อง ข้างล่างมีห้องน้ำในตัว

หลังที่ 2 กว้าง 6.50 เมตร ยาว 14.50 เมตร สร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2492 ลักษณะโดยทั่วไปเหมือนกับ หลังที่ 1

 

 

ชื่อสถานที่:วัดอรัญญิการาม (วัดสามง่าม)

ที่อยู่:81 ตำบลสามง่าม อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม 73150

หมายเลขโทรศัพท์:034-381-754

เปิดทำการ: ทุกวัน 8.00 – 17.00 น.

 

ของขลัง: กุมารทอง และ นางกวัก

      จากข้อมูลของหนังสือพิมพ์ “บ้านเมืองระบุว่า “วัดสามง่าม” มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่สมัยของ หลวงพ่อเต๋ คงทอง เป็นเจ้าอาวาส โดยวัตถุมงคลของท่านมีชื่อเสียงไปถึงต่างประเทศ สิ่งที่ได้รับการกล่าวขานมากที่สุดคือ “กุมารทอง” และ “นางกวัก” โดยหลวงพ่อเต๋ท่านสร้างตามตำรับของอาจารย์แดง ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงของท่าน

 

 

      นอกจากนี้ท่านได้ศึกษาอาคมจากหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ซึ่งหลวงพ่อทานั้นคือพระอุปัชฌาย์ของหลวงพ่อเต๋นั่นเอง โดยสูตรการทำกุมารทองและนางกวักของท่านจะใช้ดิน 7 โป่ง 7 ป่าช้า ดินขุยปู ปั้นเสกแล้วแจกให้ผู้มีศรัทธานำไปบูชา

 

      อิทธิฤทธิ์ของกุมารทองและนางกวักรุ่นแรกของหลวงพ่อเต๋นั้น คุ้มครองป้องกันภยันตราย เรียกทรัพย์ เรียกโชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง กล่าวได้ว่าหลวงพ่อเต๋นั้นพัฒนาวัดสามง่ามให้เจริญรุ่งเรืองด้วยวัตถุมงคลหลากหลาย ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดคือ “กุมารทองและนางกวัก รุ่นแรก” ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. 2485 อย่างไรก็ตาม กุมารทอง รุ่นแรก นั้นเป็นกุมารทองที่มีความเฮี้ยน ช่วยเหลือผู้บูชาด้านหน้าที่การงาน เฝ้าบ้าน ป้องกันภยันตราย ให้โชคลาภ เมตตามหานิยม รวย เฮง ส่วนนางกวักรุ่นแรกนั้น เกิดจากการบูชาพระแม่โพสพ และต่อมากลายเป็นนางกวักเรียกทรัพย์ เสริมโชคลาภ เป็นเสน่ห์มหานิยม ปัจจุบันมีการจัดสร้างกุมารทองและนางกวักรุ่นที่ 2 ซึ่งถอดแบบมาจากรุ่นแรก ซึ่งปลุกเสกตั้งแต่ 11 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา

 

 

 

  สำหรับครั้งหน้า ข้าพเจ้าจะพาไป “เช่ารถตามหาของขลัง ที่ไหนต่อนั้น ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดติดตามตอนต่อไป ไม่นานเกินรอ

#เช่ารถ #รถเช่า นึกถึงรถเช่า นึกถึงECOCAR

ไอดีไลน์ @ecocar

Call Center 020024606

0922848660

www.ecocar.co.th

www.thairentecocar.com

 


บทความที่น่าสนใจ

ทำธุรกิจขนส่ง อยากเช่ารถกระบะ เช่าแบบไหนดี ?

5 บริษัทรถเช่าขับเองราคาถูกที่พัทยา Update 2022





สาขาของเรา