รถเช่ากรุงเทพ ECOCAR rent-a-car จะพาคุณมาเช่ารถกรุงเทพ เที่ยวช่วงวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ที่ถือเป็น 'วันเด็กแห่งชาติ' นอกจากงานของหน่วยงานรัฐฯ และสวนสนุกแล้ว การเช่ารถรายวัน เดินทางไปที่ไม่ต้องไกลๆ มาก ถือว่าสร้างโมเมนต์เล็กๆ ที่อาจยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน มาดูว่า จะเป็นที่ไหน และต้องใช้เอกสารอะไรในการเช่ารถรายวันมาติดตามกันเลย
มองหาที่เช่ารถกรุงเทพ เพียงแค่แอดไลน์ @ecocar ก็สามารถติดต่อสอบถาม รถเช่า ของ ECOCAR ได้แล้ว ด้านเอกสารที่ต้องเตรียมเบื้องต้น ให้เตรียม
1) บัตรประชาชน หรือ หนังสือเดินทาง (Passport)
2) ใบขับขี่ของประเทศไทย หรือ ใบขับขี่สากล (International driving permit)
3) บัตรเครดิต หากไม่มี ก็สามารถปรึกษากับทางฝ่ายขายของ ECOCAR ได้ว่าสามารถเป็นเอกสารอะไรแทนได้ในการเช่ารถรายวัน กรุงเทพ กับ ECOCAR
ด้านจุดเด่นของรถเช่ากรุงเทพของเราที่เรามี มีดังต่อไปนี้
1. รถเช่ากรุงเทพ ขับเอง ECOCAR rent-a-car จะมีสมรรถนะที่พร้อมที่สุด ก่อนที่จะปล่อยให้เช่ารถรายวัน ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน, แบตเตอรี่, หม้อน้ำ และ ระบบหล่อเย็น
2. เดินทางไปได้ทั่วประเทศไทย ไม่จำกัดระยะทาง
3. รถเช่ากรุงเทพ ขับเอง ECOCAR rent-a-car เป็นรถยนต์ที่ใช้งานไม่ยาก หากคุณถนัดรุ่นไหนก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย ในการเช่ารถกรุงเทพ กับ ECOCAR
จัดว่าเดินทางได้ใกล้กรุงเทพที่สุดแล้ว แค่เดินทางไปโดย ทางหลวงพิเศษ ระหว่างเมือง หรือ มอเตอร์เวย์ M7 เพียง 100 กิโลเมตร ก็ถึงเมืองชล แล้ว โดยในเขตเมืองชล นั้น มีมุมสวยๆ ให้ผ่อนคลายมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สะพานชลมารควิถี สะพานเลียบทะเลเมืองชล อันสวยงาม หรือ หากใครชอบความเป็นญี่ปุ่นจ๋าๆ แนะนำไปที่ ตลาดปลาบางแสน กับ บางแสน โตชิน ที่ให้คุณอินให้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เหมือนอุ่นเครื่องให้คุณ ก่อนไปประเทศญี่ปุ่น ก็ยังได้
นอกจากนี้ หากอยากไปหาลูกฮิปโปแคระ "น้องหมูเด้ง" ด้วยแล้ว ก็ไปที่ สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ก็ไม่เสียหลาย และปิดท้ายถ่ายวิวสวยๆ ณ อ่างเก็บน้ำบางพระ และนั่งริมทะเลที่ร้าน SEAFOOD CLUB BANGSAEN ก็ได้อีกฟีลหนึ่งเลย
ขยับมายังดินแดนแห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก อย่าง สระบุรี จุดตัดที่จะแยกระหว่าง ภาคกลาง กับ ภาคอีสาน เดินทางไม่ไกล แค่ 140 กิโลเมตรเท่านั้น ด้วยทางหลวง หมายเลข 1 หรือ ถนนพหลโยธิน มาถึงแล้ว มีตัวเลือกที่น่าแวะไปเช็คอินมากๆ ไม่ว่าจะเป็น วัดพระพุทธฉาย วัดที่ตั้งอยู่ยอดเขาพระพุทธฉาย ที่จะเห็นวิวสูงๆ ของเมืองสระบุรี
ไม่ไกลมากนัก ก็ไปสามารถเดินทางไปยัง อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย ฝั่งเหนือ ที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟบุใหญ่ เป็นอุโมงค์สำหรับเส้นทางรถไฟสินค้า ที่เชื่อมระหว่างสายอีสานกับสายตะวันออก ใครสายถ่ายรูปลงไอจี หรือ จะลงไอจีสตอรี่ ก็ทางของคุณแล้ว
เสร็จจากที่นี่ ยังสามารถขับรถ เดินทางไปยัง อ.มวกเหล็ก ดินแดนแห่งฟาร์มปศุสัตว์ ก็ไปที่ "ฟาร์มโคนม ไทย-เดนมาร์ก" ที่เป็นแหล่งผลิตนมจืดชื่อดังของไทย พร้อมด้วย กิจกรรมให้เรารีดนมโคด้วยตัวเอง กับ ป้อนนมลูกโคด้วยตัวเอง ส่วนผู้รักการผจญภัย ก็มีให้ ขับรถเอทีวี ชมธรรมชาติริมป่าเขา ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
จากกระแสซีรีย์ไทย อิงประวัติศาสตร์ ที่ลงในเน็ตฟลิกซ์ อย่าง "แม่หยัว" ที่ดำเนินเรื่องราวทั้งหมดในจังหวัดนี้ โดยที่ที่เป็นที่พูดถึงเลย ก็เป็นที่ "วัดแร้ง คลองสระบัว" ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะอยุธยา ใกล้ๆ วัดหน้าพระเมรุ
โดยมีการบันทึกในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ว่า ที่ตรงนี้ เป็นที่ที่ ขุนพิเรนทรเทพ ที่ต่อมาได้เป็น สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช และเป็น พระราชบิดาของ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช โดย ณ เวลานั้น ยังดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพระตำรวจขวา พร้อมด้วยขุนนางต่างๆ ได้จัดการสำเร็จโทษ ขุนวรวงศาธิราช และ แม่หยัวศรีสุดาจันทร์
หลังจากแวะตามรอยเรื่องแม่หยัว แล้ว หากจะเอาให้สุดในธีมกรุงเก่า สามารถตามรอยละครดังอีกเรื่อง อย่าง "บุพเพสันนิวาส" ละครออเจ้า ที่ทำให้เทรนด์ชุดสไบไทย กลับมาฮิตอีกครั้ง ได้เช่นกัน โดยเฉพาะ วัดไชยวัฒนาราม วัดทรงสวย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตะวันตกของเกาะอยุธยา ที่เหมาะกับถ่ายรูปสวยๆ พร้อมด้วยชุดไทย ที่มีให้เช่ากันมากมาย
เสร็จแล้ว ไปอีกแห่งตามรอยละครออเจ้า ณ วัดพุทไธศวรรย์ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งทิศใต้ของเกาะอยุธยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ พระพุทธรูป รอบๆ ปรางค์ประธาน ที่ทำให้คุณเหมือนได้ตามรอยแม่หญิงการะเกด ไม่มีผิด