รถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีที่จะทำให้พนักงานขับรถตกงาน จริงไหม?

อาชีพพนักงานขับรถ ถือได้ว่าเป็นอาชีพการงานที่เหล่านักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ชอบไปทำธุระต่างๆนิยมทำกัน เนื่องจากเราสามารถออกสัญจรไปที่ต่างๆได้แถมยังได้ตังด้วย ได้เปิดโลกกว้าง เจอผู้คนมากมายระหว่างขับรถ เป็นอาชีพที่อิสระและสร้างรายได้ดีพอสมควร แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดตลอเวลา ทำให้อาชีพขับรถต้องมีการปรับตัวมากยิ่งขึ้น แล้วเทคโนโลยีที่น่ากลัวที่สุดก็คือ รถยนต์ไร้คนขับ นั่นเองที่จะทำให้พนักงานขับรถไม่จำเป็นต้องมีอีกต่อไปในอนาคต ซึ่งข้อนี้พนักงานขับรถต้องปรับตัวเป็นอย่างยิ่งในการจะประกอบอาชีพต่อไป จะมีผลกระทบอะไรบ้างสำหรับรถยนต์ไร้คนขับนี้ มาดูกัน สำหรับผู้ที่กำลังจะวางแผนเดินทางไปที่ต่างๆและกำลังมองหารถเช่าราคาถูก สามารถจองรถเช่าออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับ ECOCAR rent-a-car ได้ที่นี่ในตอนนี้และทันทีเลยนะ รถเช่าราคาถูก

---

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

 

 วิธีพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ด้วยตนเอง ที่ถูกต้องและปลอดภัย

---

รถยนต์ไร้คนขับ คืออะไร

รถยนต์ไร้คนขับ(Self-Driving Car) เป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบการขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการใช้นวัตกรรมของเทคโนโลยีหลักๆ 4 เทคโนโลยี ได้แก่
1.Computer Vision : เทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพ และการตรวจจับคลื่นต่างๆ ทั้งเสียงและวัตถุโดยรอบ
2.Deep Learning : สมองของรถยนต์ ทำหน้าที่วิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ ใช้ในการตัดสินใจควบคุมรถ
3.Robotic : ระบบประมวลผลให้กลายเป็นคำสั่งในการควบคุมรถ
4.Navigation : เทคโนโลยีที่ใช้ช่วยเหลือสำหรับเส้นทางการเคลื่อนที่ของรถยนต์
 

ซึ่งมีระดับการควบคุมของเทคโนโลยีไร้คนขับ ถือว่าเป็นการทำงานแบบอัตโนมัติของรถยนต์ไร้คนขับนี้ แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่

1.Driverless Assistance : การใช้เทคโนและกระบวนการในการช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบนำทาง แต่อย่างไรก็ตามคนขับก็ยังมีหน้าที่บังคับทิศทางเป็นหลัก

2.Occasional Self-Driving : การใช้เทคโนโลยีสำหรับควบคุมทิศทาง และความเร็วอัตโนมัติ โดยมีคนขับคอยทำหน้าที่คอยดูแล

3.Limited Self-Driving : การที่คนขับสามารถปล่อยให้รถสามารถขับไปได้เองอย่างอัตโนมัติทั้งหมด และมีระบบการแจ้งเตือนมายังคนขับ ให้เข้ามาควบคุมระบบด้วยตัวเองในบางครั้ง

4.Full Self-Driving under Certain Condition : การที่คนขับสามารถปล่อยให้รถขับไปได้เองอย่างอัตโนมัติทั้งหมด แต่คนขับก็ยังมีหน้าที่เข้ามาควบคุมรถเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น

5.Full Self-Driving under All Conditions : การที่รถยนต์สามารถควบคุมตัวเองด้วยระบบอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่จำเป็นต้องมีคนขับอีกต่อไป

ข้อดีของรถยนต์ไร้คนขับ

• รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติทำให้ผู้ขับขี่สบายขึ้น ในการเดินทางอันแสนยาวนาน คนเราย่อมมีความเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา จะดีแค่ไหนที่มีระบบช่วยขับอัตโนมัติที่ทำให้เราสามารถงีบหลับเพื่อคลายความเมื่อยล้าได้ในขณะขับรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รถติดที่ใช้ความเร็วไม่มาก ทำให้การเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ลดลง
• มีความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น ลองคิดดูถ้ารถยนต์ทุกคันเป็นรถยนต์ไร้คนขับหมด อุบัติเหตุจะลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถยนต์ทุกคันมีเซนเซอร์ มีกล้องมองรอบทิศทาง และใช้ความเร็วที่เหมาะสม อุบัติจากการขับปาดหน้า จี้ท้าย หลับใน จะไม่มี ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นไปอีก

ข้อเสียของรถยนต์ไร้คนขับ

• ปัญหาจากความไม่ชัดเจนของป้ายจราจร รถยนต์ไร้คนขับจำเป็นต้องมีเซนเซอร์ในการอ่านป้ายจราจรต่าง ๆ แต่ถ้าในกรณีที่ป้ายจราจรเกิดชำรุดเสียหายหรือป้ายไม่ชัดเจนอาจทำให้สมองกลของรถยนต์เกิดการตัดสินผิดพลาดได้
• ปัญหาผิวจราจร ในสภาพความเป็นจริงบางครั้งเราต้องเจอกับถนนที่ไม่เรียบเป็นหลุมเป็นบ่อ อาจจะทำให้เซนเซอร์ของรถยนต์ไร้คนขับไม่สามารถแยกหลุมบนถนนได้ ทำให้รถยนต์ตกหลุมด้วยความสูงทำให้อาจเกิดอุบัติได้
• ปัญหาการขับขี่ของรถยนต์คันอื่น แน่นอนว่าถ้ารถยนต์ทุกคันบนท้องถนนเป็นรถยนต์ไร้คนขับทั้งหมดปัญหานี้จะไม่เกิดแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้คนที่ใช้รถยนต์ไร้คนขับนั้นมีจำนวนน้อยมาก บางครั้งพฤติกรรมการขับขี่ของรถยนต์คันอื่นอาจทำให้รถยนต์ไร้คนขับเกิดความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุขึ้นได้ เช่น การขับปาดหน้า ขับจี้ท้าย หรือแม้แต่ขับย้อนศร รถยนต์ไร้คนขับอาจตัดสินใจผิดพลาดได้
• ด้านราคา ถึงแม้ในปัจจุบันรถยนต์ไร้คนขับเป็นเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทในชีวิตของเราในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ แต่สำหรับปัญหาตอนนี้ คือ ราคาของรถยนต์ไร้คนขับมีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ทำให้การซื้อรถยนต์ไร้คนขับสำหรับบุคคลทั่วไปแทบเป็นไปไม่ได้เลย ตัวอย่างเช่น ราคาของ Tesla Model S ที่เป็นรถยนต์ไร้คนขับมีราคาที่ขายในประเทศไทยคือ 6.5 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงมากสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ในอนาคตราคาของรถยนต์ไร้คนขับก็มีแนวโน้มที่จะลดลง จนคนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ถ้ารัฐบาลให้การสนับสนุน

รถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีที่จะทำให้พนักงานขับรถตกงาน จริงไหม?

บอกตรงๆเลยว่าไม่จริงเสมอไป เพราะเทคโนโลยีบางอย่าง เช่น การซ่อมรถหรือบำรุงรักษา ยังคงต้องพึ่งพามนุษย์อยู่ เพียงแต่พนักงานขับรถต้องรู้จักปรับตัวในการจะประกอบอาชีพพนักงานขับรถด้วย คือนอกจากจะเชี่ยวชาญสถานที่ต่างๆแล้ว ยังต้องรู้จักการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ให้คงสภาพการใช้งานด้วย เพราะรถยนต์ไร้คนขับยังไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้

อีกทั้ง ณ ปัจจุบันนี้ด้วยข้อจำกัดของรถยนต์ไร้คนขับหลายๆอย่างที่เป็นข้อเสีย ทำให้อาชีพพนักงานขับรถยังไม่มีสิทธิ์จะตกงานง่ายๆแน่นอน ถึงแม้ว่าอนาคตข้างหน้ารถยนต์ไร้คนขับจะเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว แต่ก็ยังต้องการมนุษย์ที่ทำหน้าที่ซ่อมบำรุงและเก็บค่าโดยสารอยู่ พนักงานขับรถจึงทำได้เพียงแค่ต้องรู้จักปรับตัวและเรียนรู้ทักษะใหม่ๆเพื่อบำรุงรักษา ตั้งค่าโปรแกรม และเรียนรู้ระบบเก็บค่าโดยสารของรถยนต์ไร้คนขับด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวของรถยนต์ไร้คนขับ เทคโนโลยีที่จะทำให้พนักงานขับรถตกงาน จริงไหม? น่าสนใจใช่ไหมเอ่ย และสำหรับใครก็ตามที่อยากจะฝึกซ้อมนั่งรถยนต์ไร้คนขับดูสักครั้ง โดยที่ไม่ต้องขับรถเอง ขอให้คิดถึง เช่ารถพร้อมคนขับ กับ ECOCAR RENT-A-CAR กันเยอะๆนะ บริษัทเช่ารถนี้จดทะเบียนกับกรมการค้าแล้ว มาด้วยประสบการณ์ในการให้บริการเช่ารถมามากกว่า 8 ปี มีรถยนต์หลายร้อยคัน ทุกคันมีคุณภาพดี อายุใช้งานไม่ถึง 5 ปี มากด้วยบริการที่หลากหลาย ทั้งเช่ารถขับเอง-เช่ารถพร้อมคนขับ-เช่ารถระหว่างซ่อม-เช่ารถหรู-เช่ารถตู้-เช่ารถกระบะ-เช่ารถมอไซต์-เช่ารถรายวัน-เช่ารถรายเดือน ทุกคันมีน้ำมันเติมให้เต็มถัง พร้อมกับประภัยชั้นหนึ่งให้ด้วย มีแม่แรงและยางอะไหล่ไว้เปลี่ยนให้ ที่สำคัญคือรถทุกคันขับขี่ไปได้ทั่วไทย ไม่จำกัดระยะทางด้วยนะ

สำหรับใครก็ตามที่อยากจะตามต่อเทคโนโลยีขับรถต่อ ขอให้อ่านบทความ

Car sharing คืออะไร จะมาแทนที่รถเช่าแบบดั้งเดิมหรือไม่? กันต่อเลยนะ

tag : รถยนต์ไร้คนขับ เช่ารถพร้อมคนขับ