[เที่ยวนนทบุรี 2 วัน 1 คืน] มีเวลาแค่นี้ จะเที่ยวที่ไหนได้บ้าง

เที่ยวนนทบุรี 2 วัน 1 คืน กันเถอะ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจังหวัดนนทบุรีถือเป็นอีกจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพอีกแห่งหนึ่งเหมือนกัน ด้วยความที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งด้านวัฒนธรรมและอาหารการกิน รวมถึงมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ให้ได้เที่ยวด้วย แต่ช่วงเวลาที่แสนสั้นแค่ 2 วัน 1 คืนนี่ เราสามารถไปเที่ยวที่ไหนได้บ้างละ วันนี้เรามีแผนกำหนดการเที่ยวนนทบุรี 2 วัน 1 คืน มาให้ทุกคนได้ชมกัน ดูสิว่าจะมีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้าง ไปดูกันเลย สำหรับผู้ที่กำลังจะวางแผนเดินทางไปที่นนทบุรีและกำลังมองหารถเช่านนทบุรีราคาถูก สามารถจองรถเช่าออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง กับ ECOCAR rent-a-car ได้ที่นี่เลยนะ รถเช่านนทบุรีราคาถูก

สำหรับใครที่มองหารถเช่าที่นนทบุรีเพื่อจะขับไปเที่ยว ขอให้อ่านบทความ

[ 5 บริษัทเช่ารถนนทบุรี ] ที่ให้เช่าขับเองและราคาถูก

เที่ยวนนทบุรี 2 วัน 1 คืน

วันแรก
8.00 น. เริ่มต้นมาที่ ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (หลังเก่า) ก่อนเลย  ตั้งอยู่ บริเวณท่าน้ำนนทบุรี ใกล้กับหอนาฬิกา  เป็นอาคารไม้สักเก่าแก่ที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5  ลักษณะอาคารสร้างด้วยไม้สักเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ที่ประยุกต์ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อน อาคารหลังนี้ได้รับการอนุรักษ์และปรับปรุงให้เป็นที่ตั้งพิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี อันเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวความเป็นมาของจังหวัดนนทบุรีอย่างครบถ้วน  โดยเป็นแหล่งรวบรวม เก็บรักษา และจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตลอด จนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันทรงคุณค่า เพื่อนๆสามารถเข้าไปดูและถ่ายภาพสวยๆในสถานที่ดังกล่าวเป็นที่ระลึกได้เลย

9.00 น. ไปเที่ยว ท่าน้ำนนทบุรี กันต่อ อยู่ใกล้ๆกันเลยนะ ท่าน้ำนนท์ หรือ ท่าน้ำนนทบุรี หรือ ท่าน้ำพิบูลสงคราม 3 เป็นท่าน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาหลายท่าใกล้เคียงกัน ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่าและหอนาฬิกาจังหวัดนนทบุรี ถนนประชาราษฎร์ เขตเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ประกอบด้วยท่าเรือด่วนเจ้าพระยาและท่าเรือข้ามฟาก มีลักษณะเด่นอยู่ที่หอนาฬิกาที่ตั้งตระหง่านเด่นอยู่ใจกลางท่าน้ำนนท์ เป็นวงเวียนและสัญลักษณ์ประจำของท่าน้ำนนท์แห่งนี้ หอนาฬิกาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2500 ตัวเรือนนาฬิกาเป็นยี่ห้อ Tag Heuer ซึ่งเป็นตัวเรือนของ Tag Heuer ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หอนาฬิกาแห่งนี้ตั้งอยู่เคียงคู่ท่าน้ำนนท์มาอย่างยาวนาน ใช้บอกเวลาเเก่ผู้ที่สัญจร เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ จุดจอดเรือทุกสายที่มายังนนทบุรี รวมทั้งจุดจอดรถประจำทาง เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางความคึกคักของนนทบุรี และเป็นที่ตั้งของตลาดนนทบุรี ตลาดชุมชนขนาดใหญ่ ที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ที่อร่อยเด็ดดวงไว้มากมาย มาที่นี่ส่วนใหญ่จะนิยมมาหาของอร่อยทาน และซื้อของกินกลับบ้าน ซึ่งมีร้านอาหารขึ้นชื่อ ไม่ว่าจะเป็น เกาเหลาเมืองนนท์ ส้มตำ หมูสะเต๊ะ  เป็ดพะโล้ ข้าวหมูแดง หมูกรอบ ขนมปัง ขนมหวาน เรียกว่ามีให้เลือกทานกันจนอิ่มท้อง

 

สามารถดูข้อมูลของท่าน้ำนนท์แบบเต็มๆได้ที่

คิดถึงเมืองนนท์ ไปเดินเที่ยว [ท่าน้ำนนท์] กัน

 

10.00 น. แวะมาถ่ายรูปในสถานที่สุดชิคอย่าง Street Art เมืองนนท์ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่สุดชิค แห่งนนทบุรี Street Art เมืองนนท์ ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ เป็น Street Art  ที่วาดได้อย่างว้าว สวยงามสมจริงแบบสามมิติ แต่ละภาพสะท้อนเรื่องราว วิถีชีวิต ชุมชน ประเพณี วัฒนธรรม ของดีจังหวัดนนท์ รวมถึงอัตลักษณ์ความเป็นเมืองนนท์ ถูกถ่ายทอดไว้บนภาพศิลปะแบบสตรีทอาร์ททั้งบนกำแพง บริเวณตอม่อสะพาน กลายเป็นสีสัน ที่ใครผ่านไปมาต้องหันมามองและแวะมาถ่ายภาพ

11.00 น. สำหรับสายบุญ เข้ามาแวะทำบุญได้ที่ วัดชมภูเวก ตั้งอยู่แถวสนามบินน้ำ  ซ.นนทบุรี 33 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของจังหวัดนนทบุรี  เป็นวัดมอญสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สถาปัตยกรรมของวัดชมภูเวกที่มีความเก่าแก่ถึง 350 ปีนี้ เป็นศิลปะผสมผสานระหว่าง ไทย มอญ จีน พม่า และของชาวตะวันตก  สิ่งที่โดดเด่น คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังโบราณอันงดงาม ทั้งสี่ด้านมีภาพจิตรกรรมสีฝุ่นผสมกาวตามแบบอยุธยาตอนกลางฝีมือช่างสกุลนนทบุรีในยุคนั้นแสดงเรื่องราวทศชาติชาดกและพุทธประวัติ

12.00 น. แวะทานข้าวกันก่อนที่ ร้านเรือนทับขวัญ ร้านอาหารไทยชาววัง ที่ซ่อนตัวอยู่ในทับขวัญรีสอร์ท  ที่เสริฟเมนูอาหารไทยโบราณหาทานยากในบรรยากาศรีสอร์ทเรือนไทยภาคกลาง รายล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ อาหารของที่นี่เป็นการปรุงในตำรับไทยแท้แบบชาววังหรือสูตรชาววัง วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง มาจากท้องถิ่นนนทบุรีแท้  ซึ่งมีเมนูมีให้เลือกมากมาย อาหารไทยรสชาติอร่อย ในราคาไม่แพงเกินไป แถมตกแต่งจานสวยงามน่าทานมาก

 

สามารถดูข้อมูลร้านอาหารในเขตเมืองนนทบุรีได้ที่

[5 ร้านอาหารริมน้ำนนทบุรี] ยอดนิยม ที่บรรยากาศดีและอร่อย

 

13.00 น. แวะมาเที่ยวชมบ้านศิลปินแห่งชาติอย่าง บ้านโสมส่องแสง ครูมนตรี ตราโมช  ตั้งอยู่ในซอยพิชยนันท์ 2 ถ.ติวานนท์ 3  ครูมนตรี ตราโมท ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาดุริยางคศิลป์ ดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ. 2528  ครูมนตรี ตราโมท ได้ชื่อว่าเป็นศิลปิน 5 แผ่นดิน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5–9  โดยปัจจุบันท่านได้ถึงแก่อนิจกรรมแล้ว  โดยมีทายาท คือ คุณญาณี ตราโมท ได้เปิดบ้านหลังนี้ให้เป็นพิพิธภัณฑ์  จัดแสดงความเป็นอยู่วิถีชีวิตที่เรียบง่ายสมถะ แสดงชีวประวัติของครูมนตรี รวมทั้งผลงานเพลงที่เป็นลายมือ ซึ่งหากใครต้องการชมพิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น แต่ต้องโทรนัดล่วงหน้าเพื่อเข้าชม ส่วนบริเวณอื่นรอบตัวบ้าน สามารถเข้าไปชมได้โดยที่ไม่ต้องแจ้ง

14.00 น. เข้าไปทำบุญกันอีกรอบที่ วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีกำแพงล้อมรอบวัดคล้ายพระบรมมหาราชวัง ภายในวัดมีพระอุโบสถที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบไทย จีน มีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงามปัจจุบันเป็น สถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเก้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลที่ 3 และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ไทยประเภทจักรๆวงศ์ๆอีกด้วย

15.00 น. ข้ามฟากไปเที่ยวเกาะกัน ที่ เกาะเกร็ด เกาะกลางน้ำเจ้าพระยา แหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อในจังหวัดนนทบุรี รู้จักกันดีในฐานะแหล่งชุมชนคนมอญที่มีชื่อเสียง ในเรื่องของเครื่องปั้นดินเผา และประเพณีวัฒนธรรมแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้เป็นอย่างดี เกาะเกร็ดเป็นสถานที่ ขึ้นชื่อของชุมชนกลุ่มชาวมอญและมีเครื่องปั้นดินเผาชั้นดี เป็นสินค้าประจำของเกาะเกร็ดโดยมีพระเจดีย์มุเตาของวัดปรมัยยิกาวาส เป็น สัญลักษณ์ประจำฝั่งท่าน้ำของเกาะ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวบนเกาะเกร็ด ก็จะมีทั้งมาเดินเที่ยว ช้อปปิ้ง หาของอร่อยๆ กิน บ้างก็เลือกนั่งเรือชมรอบเกาะ

18.00 น. ทานดินเนอร์มื้อเย็นที่ ยกเย็นขึ้นบก ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศชิลริมน้ำ บนเกาะเกร็ด ตัวร้านเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ตกแต่งแบบย้อนยุคแบบบ้านๆเพื่อให้เข้ากับชุมชนเกาะเกร็ด  มีระเบียงยื่นลงไปในน้ำ ส่วนชั้น 2 มีระเบียงเล็กๆ มีโต๊ะนั่งพื้น 2-3 โต๊ะ เมนูมีทั้งเครื่องดื่ม อาหารทานเล่น อาหารจานหลักทั้งคาวทั้งหวาน เช่น ผัดเส้นจันทร์กุ้งแม่น้ำหน่อกะลา ยำส้มโอกุ้งแม่น้ำ เฟรนฟรายไข่เค็ม บาบีคิว ไอศกรีมกะทิ

20.00 น. พักผ่อนค้างคืนที่ Aliz Hotel ตั้งอยู่ในจังหวัดนนทบุรี อยู่ห่างจากท่าเรือพิบูลย์ 2 ไม่เกิน 6 กม. ห่างจากท่าเรือนนทบุรี น30 6 กม. ที่พักนี้มีลานระเบียงและพื้นที่จอดรถส่วนตัวฟรีสำหรับผู้เข้าพักที่เดินทางโดยรถยนต์ โรงแรมระดับ 4 ดาวแห่งนี้ให้บริการห้องพักปรับอากาศพร้อมห้องน้ำส่วนตัว บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) ฟรีและศูนย์ออกกำลังกาย โรงแรมมีห้องสำหรับครอบครัว ห้องพักในโรงแรมมีโทรทัศน์จอแบน มีบริการอาหารเช้าแบบอาหารจานเดียวแบบเอเชีย พนักงานที่แผนกต้อนรับสามารถสื่อสารภาษาไทยและภาษาอังกฤษพร้อมให้บริการตลอด 24 ชม.

วันที่สอง
8.00 น. เช็คเอ้าท์ที่โรงแรมเสร็จ มาหามื้อเช้ากินที่ 5522 Spa and Café คาเฟ่เล็กๆ ท่ามกลางความเขียวขจีของต้นไม้ จัดแต่งสถานที่ ได้สวยงามกลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติบรรยากาศสวน  มีมุมถ่ายรูปเก๋เว่อร์ มีที่นั่งทั้งแบบindoor และoutdoor ด้านหลังร้านมีสวนมะม่วง วิวด้านหลังเป็นร่องสวน สามารถเดินชมสวนได้ เป็นร้านที่น่าแนะนำให้มาพักผ่อน จิบกาแฟยามเช้า ช่วงสายคนจะเริ่มเยอะ

9.30 น. แวะมาทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตที่ วัดกู้ (พระนางเรือล่ม) เป็นวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งโดดเด่นด้วยศิลปะแบบมอญเดิมชื่อ “วัดหลังสวน” สร้างขึ้นเมื่อประมาณพ.ศ.2295  จนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมพ.ศ.2423 เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์พระบรมราชเทวีอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสบางปะอินทางชลมารคได้เกิดอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่มเป็นเหตุให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทกุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์  จากนั้นได้กู้พระศพและซากเรือขึ้นมาที่วัดนี้จึงเรียกว่า “วัดกู้” ตั้งแต่นั้นมา หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า “วัดพระนางเรือล่ม” นักท่องเที่ยวสามารถไปกราบขอพรพระนอนองค์ใหญ่ขนาด 33 เมตรซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารเปิดโล่ง ชมความงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบมอญภายในโบสถ์หลังเก่า เป็นภาพเขียนสีน้ำมันเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ ด้านข้างวิหารเป็นที่เก็บเรือพระที่นั่งที่อับปางซึ่งชาวบ้านได้กู้ขึ้นมาและมีพระตำหนักที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์ยังมีศาลพระนางเรือล่มซึ่งจำลองแบบมาจากศาลาจตุรมุขของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ที่พระราชวังบางปะอิน

11.00 น. เที่ยวเชิงธรรมชาติกับ สวนมาลัยบัววิคทอเรีย สวนจำหน่ายบัวพันธุ์วิคทอเรีย หรือที่เรียกว่าบัวกระด้งยักษ์ที่เปิดมานานจนเป็นต้นตำรับของบัวกระด้งหลายแห่งซึ่งนำพันธุ์จากสวนไปขยายพันธุ์ต่อจนมีชื่อเสียงแล้ว ยังเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศร่มรื่นคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาชมสวนบัว แน่นอนกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นที่สุด คือการลงไปบนบัวกระด้ง ให้ได้ลองยืน นั่งถ่ายรูปได้อย่างสนุกสนาน

12.00 น. มาทานข้าวเที่ยงที่ ธรรมชาติโอชา ร้านอาหารท่ามกลางสวนสวยเขียวขจีแสนร่มรื่น มีที่นั่งห้อยขาริมระเบียงติดริมบึงบัวสุดชิล กลางบึงบัวมีสะพานไม้ทอดยาวสำหรับเดินเล่นชมวิวถ่ายภาพอีกด้วย นอกจากจะอิ่มในบรรยากาศของธรรมชาติที่แสนจะโอชาสมชื่อแล้ว ยังอิ่มโอชาในเรื่องอาหารที่มีความดีงามไม่แพ้กัน เพาะรสชาติของอาหารนั้นอร่อย มีให้เลือกมากมายหลายเมนูโดยเน้นอาหารไทยหลากสไตล์รสชาติอร่อยจัดจ้านถึงเครื่องปรุง ทุกเมนูล้วนคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี

13.00 น. มาทำบุญที่วัดจีนบ้างที่ วัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) วัดที่พุทธบริษัทไทย-จีน ร่วมกันสร้าง บริเวณวัด มีทัศนียภาพอันสวยงาม ร่มรื่น สบายตา สบายใจ ทั้งสวนหย่อม สวนหินรูปร่างต่าง ๆ และรูปปั้นหิน ภายในวัดประกอบด้วย อุโบสถ มีลักษณะเป็นพุทธศิลป์แบบจีนมหายานในสมัยยุคหมิง–ชิง ซึ่งมีภาพเขียนที่มีลวดลายอันวิจิตรงดงาม และมีพระประธานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีพุทธลักษณะอันเปี่ยมด้วยพุทธเมตตาบารมี วิหารหมื่นพุทธสุขาวดีพุทธเกษตร วิหารท้าวจตุโลกบาล วิหารอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ วิหารบูรพาจารย์ เป็นพุทธศิลป์จีนมีลักษณะงดงาม

14.00 น. มาถ่ายรูปกับตึกสวยๆที่ ชมเฌย อีกหนึ่งสถานที่ถ่ายภาพสุดแนว  มีมุมถ่ายภาพฮิปเก๋หลายมุม ที่ขาฮิปสเตอร์ทั้งหลายต้องไม่พลาด  ชมเฌย ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดนนทบุรี  ซอยกำนันทินกร ถนนศาลาธรรมสพน์  ใกล้พุทธมณฑลสาย 4  โดยจำลองสถานที่บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 6 ไร่  ให้เป็นเมืองขนาดย่อม ตกแต่งอาคารบ้านเรือน ร้านค้าต่าง ๆ แบบโบราณย้อนยุคชวนให้ย้อนคิดถึงชีวิตวัยเด็ก

15.00 น. มาทานกาแฟและของว่างยามบ่ายที่ บางกอกดอยคาเฟ่ หรือ บางกอกเดย์ราม่า คาเฟ่สุดชิคย่านบางกรวย นนทบุรี ที่ตกแต่งแนวย้อนยุคแบบวินเทจ ใน  concept ของร้านที่ต้องการให้เป็นเหมือนโรงภาพยนตร์ในยุคเก่า และด้วยความตั้งใจของเจ้าของที่ต้องการให้เป็นมินิอาร์ตมอลล์  แลนด์มาร์คโดดเด่นที่ต้องมาถ่ายภาพ คือ ชิงช้าสวรรค์สีชมพู  พร้อมมุมเก๋แนวเรโทรอีกหลายจุด อาหารมีทั้งคาวหวาน เครื่องดื่ม หลากหลาย รสชาติดี

16.00 น. ขอมาทำบุญอีกสักรอบกับ วัดชลอ วัดที่อยู่ริมน้ำบรรยากาศร่มรื่น จุดเด่นวัดนี้ คือ มีโบสถ์บนเรือหงส์ ที่มีลวดลายแกะสลักเป็นรูปหงส์ งดงามวิจิตรมาก  ปัจจุบันวัดชลอเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของอำเภอบางกรวย ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี อุโบสถที่เป็นโบราณสถานสำคัญของวัดได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์จนอยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรงสง่างาม

17.00 น. ปิดท้ายด้วยการมาแวะซื้อของฝากที่ ตลาดน้ำบางคูลัด เป็นย่านตลาดเก่าริมคลองในอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี เดิมเป็นตลาดที่มีเรือพายขายของในลำคลอง แต่ปัจจุบันย้ายขึ้นมาบนบกหมดแล้ว   เป็นตลาดขนาดเล็กที่มีร้านขายของไม่มาก เปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ หากเดินเข้ามาทางด้านหน้าจะเจอกับตลาดสดก่อน ซึ่งของที่ขายจะเหมือนกับตลาดสดทั่วไป  สำหรับการเดินทางหากนำรถส่วนตัวมา สามารถนำไปจอดได้ที่  ศาลเจ้าพ่อจุ้ย ซึ่งอยู่เลยจากตลาดไปเล็กน้อย สามารถเดินทะลุถึงกันได้ผ่านตรอกแคบๆ

แล้วทั้งหมดนี้ก็คือแผนกำหนดการเที่ยวของ [เที่ยวนนทบุรี 2 วัน 1 คืน] มีเวลาแค่นี้ จะเที่ยวที่ไหนได้บ้าง เป็นอย่างไรกันบ้าง น่าสนใจเลยใช่ไหม ก็ตามที่กำลังมองหาเช่ารถราคาถูกแถวๆนนทบุรีอยู่ ขอให้คิดถึง เช่ารถราคาถูก กับ ECOCAR RENT-A-CAR ไว้ในใจกันเยอะๆนะ เพราะที่นี่มากด้วยประสบการณ์ในการให้บริการรถเช่ามามากกว่า 9 ปี จดทะเบียนกับกรมธุรกิจการค้าแล้ว มีรถยนต์มากมายหลายร้อยคัน ทุกคันมีคุณภาพดี อายุใช้งานไม่ถึง 5 ปี มีบริการหลากหลายทั้งเช่ารถขับเอง-เช่ารถพร้อมคนขับ-เช่ารถระหว่างซ่อม-เช่ารถรับส่งสนามบิน-เช่ารถหรู-เช่ารถมอไซต์ มีทั้งเช่ารายวัน-เช่ารายเดือน-เช่ารถระยะยาว มีประกันภัยชั้นหนึ่งให้ทุกคัน พร้อมกับน้ำมันเต็มถังทุกคัน แถมแม่แรงและยางอะไหล่ไว้เปลี่ยนด้วย สมัครก็ง่าย ไม่ใช้บัตรเครดิต แถมรถยังวิ่งไปได้ทั่วไทย ไม่จำกัดระยะทางด้วยนะ

สำหรับใครที่อยากจะเที่ยวนนทบุรีอีก ลองอ่านบทความที่เที่ยวโดยละเอียดพร้อมการเดินทางที่

เช่ารถนนทบุรี ขับไปเที่ยว [5 ที่เที่ยวนนทบุรี]

 

tag : เที่ยวนนทบุรี เที่ยวนนทบุรี 2 วัน 1 คืน จังหวัดนนทบุรี