อันตรายจากการไม่ใช้ คาร์ซีท (CARSEAT)
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า " รถชน " เป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของ เด็ก อันดับต้นๆ ในปี 2546-2556 " อุบัติเหตุจราจร " เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของเด็กไทยรองลงมาจากการจมน้ำ ข้อมูลจาก ผศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อความปลอดภัยในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีในปี 2557 บอกว่า ในช่วง 14 ปีหลังมานี้มีเด็กไทยอายุน้อยกว่า 15 ปี ตายจากอุบัติเหตุทางจราจร 14,669 คน หรือเฉลี่ยปีละ 104 คน
เด็กเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในอัตรามากกว่าผู้ใหญ่ เพราะเด็กมีศีรษะหนัก ลำตัวเล็ก มีกระดูกต้นคอ กระดูกทรวงอกที่อ่อน อวัยวะภายในช่องท้อง เช่น ตับ ม้าม ค่อนข้างใหญ่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุเด็กจึงมีลักษณะการเคลื่อนตัวคล้ายลูกแบดมินตันคือ ‘พุ่งแรง’ ทะลุออกนอกรถได้ง่าย ทำให้สมอง ก้านคอ และม้ามแตก ซึ่งระบบยึดเหนี่ยวในรถออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่จึงไม่เหมาะกับเด็ก มักจะเกี่ยวบริเวณคอหรือตา ทำให้เกิดอันตรายซ้ำอีก
แต่ " คาร์ซีท " สามารถ
ในประเทศพัฒนาแล้วจึงมีการกำหนด ‘ กฎหมายคาร์ซีท ’ ชัดเจน
ตรงกับรายงานจาก ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกาที่บอกว่า เทียบกับใช้เข็มขัดนิรภัยเพียงอย่างเดียว
ในเวลานั้น นพ.อดิศักดิ์ ได้เสนอให้มีการผลักดันทางด้านกฎหมาย 3 ข้อหลักๆ
1) ผู้บริโภค ต้องมีหน่วยงานให้ความรู้เรื่อง ‘ คาร์ซีท ’
2) ผู้ผลิต ต้องให้ความรู้เรื่องความปลอดภัยของเด็กในรถยนต์-ต้องมีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วน
3) ภาครัฐ ต้องแก้ไขกฎหมายจราจร และลดภาษีนำเข้าอุปกรณ์ความปลอดภัยในรถยนต์ เพราะขณะนั้นภาษีเก็บในอัตรา 25-30% ทำให้ราศาสูงมากประชาชนเข้าไม่ถึง และยังต้องส่งเสริมให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการใช้อุปกรณ์ด้วย
ก่อน 8 ปีถัดมา (ปี 2565) ประเทศไทยจะมีประกาศบังคับใช้กฎหมาย ‘คาร์ซีท’ ตามรอยหลายประเทศทั่วโลกที่มีการบังคับใช้มาก่อน
ใน " สหราชอาณาจักร " กำหนดให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือมีความสูงน้อยกว่า 135 ซม. ต้องนั่งคาร์ซีท หรือ Booster Seat
ใน " ฝรั่งเศส " ก็กำหนดให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปีและมีความสูงน้อยกว่า 135 ซม. ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็ก ที่ได้รับการรับรองจากยูเอ็น R44/R129 และเด็กที่สูงระหว่าง 135-150 ซม. สามารถใช้คาร์ซีท หรือ Booster Seat ได้ หากจำเป็น
ใน " เยอรมนี " กำหนดให้เด็กที่อายุน้อยกว่า 12 ปี หรือสูงน้อยกว่า 150 ซม. ต้องใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้รับการรับรองจาก UN R44/R129 และเด็กต้องใช้คาร์ซีทในแท็กซี่อีกด้วย
ใน " สหรัฐอเมริกา " กำหนดแนวทางแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ อย่างเช่นรัฐวอชิงตัน เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี หรือสูงน้อยกว่า 4 ฟุต 9 นิ้ว ต้องนั่งคาร์ซีท หรือ Booster Seat เด็กทารกอายุน้อยกว่า 1 ปี หรือหนักน้อยกว่า 1 ปอนด์ ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลังของรถยนต์
ฟากเอเชียเองก็มี " ญี่ปุ่น " ที่กำหนดให้เด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปีต้องนั่งคาร์ซีท โดยแนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี หรือหนักน้อยกว่า 9 กก. นั่งคาร์ซีทแบบหันไปทางด้านหลัง เด็กอายุน้อยกว่า 4 ปี หรือหนักน้อยกว่า 18 กก. นั่งคาร์ซีทแบบหันไปทางด้านหน้า ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี หนักไม่เกิน 36 กก. ใช้ booster seat ได้
ส่วน " สิงคโปร์ " กำหนดให้ผู้ที่สูงน้อยกว่า 135 ซม. ต้องนั่งในที่นั่งนิรภัย หรือใช้ booster seat หรือ adjustable seatbelt ผู้ที่สูง 135 ซม. ขึ้นไป ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากฝ่าฝืนปรับ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือจำคุก 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
ความเข้าใจผิดของคนไทยที่มีมานาน เมื่อต้องเดินทางด้วยรถยนต์จะจัดที่นั่ง Carseat ให้แก่เด็กที่เริ่มโตแล้ว ส่วนเด็กทารกก็นำมาอุ้มกอดไว้เสียเอง ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด ในไทยเรานี้มีผู้ที่ออกมารณรงค์เกี่ยวกับการใช้ Carseat อย่างจริงจัง คือ ศูนย์เสริมสร้างความปลอดภัยในเด็ก โดยเผยแพร่วิธีการใช้ที่นั่ง Carseat ที่ถูกต้อง
วิธีการใช้ Carseat ที่ถูกต้อง
1. ติดตั้งเบาะ Carseat ในประตูรถฝั่งที่ติดตั้งระบบล็อคป้องกันเด็กเปิดประตูเองอัตโนมัติ เพราะนิ้วมือของเด็กอาจจะเลื่อนเปิดประตูเองได้
2. เก็บของเล่นเด็ก หรือวัสดุชิ้นเล็กชิ้นน้อยให้ไกลจากบริเวณที่นั่ง เพราะอาจกระเด็นเป็นอันตรายได้ แต่หากเด็กขาดไม่ได้ ควรหาเป็นตุ๊กตานิ่ม ๆ ตัวเล็ก ๆ ให้เด็กถือว่า
3. ไม่ทิ้งให้เด็กอยู่บนที่นั่ง Carseat เพียงลำพังคนเดียวบนรถทุกกรณี
4. หากมีเด็กโดยสารมากกว่า 1 คน ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ด้วยกัน เพราะอาจจะเล่นกันจนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น พี่ไปปลดสายรัดให้น้องโดยที่ผู้ใหญ่ไม่เห็น เป็นต้น
5. หมั่นตรวจเช็คประตูฝั่งที่นั่ง Carseat อยู่เสมอ ทุกครั้งก่อนออกรถ อย่าวางใจว่าตั้งค่าล็อคอัตโนมัติแล้วจะปลอดภัย เพราะอาจจะมีใครเผลอไปปลดล็อคก็ได้
นอกจากนี้คุณแม่ตั้งครรภ์ก็ไม่ควรละเลย “เข็มขัดนิรภัย” โดยคุณหมอแนะนำว่า ให้คาดเข็มขัดโดยจัดสายรัดให้อยู่ที่ใต้ท้อง และ คาดกลางหน้าอก เพื่อไม่ให้อึดอัด และไม่รัดท้องจนหายใจไม่ออก ไม่ว่าจะนั่งด้านข้างคนขับ หรือนั่งด้านหลัง คุณแม่ก็ควรคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัยนี้ด้วยเสมอ!
ตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายนี้ แต่หลังประกาศกฎหมายในราชกิจจานุเบกษา สู่ประชาชนคนทั่วไป
การเช่ารถกับ ECOCAR rent-a-car
ทางเรามีบริการรถเช่า พร้อมคนขับและสำหรับลูกค้าท่านใดที่มีลูกอายุน้อยทางเราก็มีบริการ car seat ให้เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวท่านเราพร้อมบริการ อำนวยความสะดวกสบายให้ท่านเป็นอันดับหนึ่ง หากต้องการเดินทางไกล อยากจะแนะนำรถเช่าพร้อมคนขับ คลิก จะดีกว่า ท่านจะได้พักผ่อนเต็มที่ และไม่ต้องกังวลเพราะเรามีพนักงานมืออาชีพ ชำนาญเส้นทาง ปลอดภัย หายห่วง ถึงที่หมายตรงต่อเวลา สุดท้ายอยากจะฝาก ECOCAR rent-a-car ไว้ด้วยครับ
สนใจอ่านบทความอื่นเพิ่มเติม คลิก