ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1,2,3 ต่างกันอย่างไร
หลายคนสงสัยกันว่าทำไม!! คนที่มีรถยนต์จะต้องมีประกัน
หลายคนที่มีรถคงจะสงสัยกันอยู่บ้างใช่ไหม ว่าทำไมต้องมีการทำประกันภัยรถยนต์ รวมทั้ง ยังมีกฎหมายบังคับให้ทำประกันภัยรถยนต์อีกต่างหาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ประกันภัยรถยนต์นั้น จะทำให้ เจ้าของรถยนต์ไม่ต้องรับความเสี่ยงในการเสียค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุเองทั้งหมด และทำให้ผู้เสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์ซึ่งได้รับการชดเชยอย่างทันท่วงที เพื่อที่จะได้นำเงินส่วนนั้นไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหาย ประโยชน์ของการประกันภัยนั้นมีหลายประการ สนใจเช่ารถ คลิก
ประโยชน์ของประกันภัยรถยนต์ ในด้านการช่วยเจ้าของรถยนต์ประหยัดเงิน ประกันนั้นเปรียบสเหมือนการซื้อความเสี่ยง เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัยและอุ่นใจ ควรซื้อประกันติดรถไว้ เพราะว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุเราก็ไม่ต้องออกเงินซักบาท(กรณีเกิดอุบัติเหตุ*แล้วแต่เงื่อนไขประกันชั้นไหน) เพราะโดยปกติรถยนต์นั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูง เมื่อคนเราได้เป็นเจ้าของรถยนต์ก็ต้องรักต้องหวงเป็นธรรมดา แต่หากรถยนต์เกิดความเสียหายขึ้น ไม่ว่าจะเล็กน้อย หรือเสียหายมาก เจ้าของรถยนต์ก็ต้องนำรถยนต์ไปซ่อม
หากเจ้าของรถยนต์ไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ เจ้าของรถยนต์ก็ต้องออกค่าซ่อมเองทั้งหมดแต่ผู้เดียว หรือ หากเจ้าของรถยนต์ขับรถไปชนคนเดินถนน หรือรถยนต์ของผู้อื่นทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต หรือบาดเจ็บ หรือเสียหายแก่ทรัพย์สิน เจ้าของรถยนต์ก็ต้องจะใช้ค่าเสียหายเหล่านั้นทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว โดยอาจจะมีตั้งแต่หลักพันบาท ไปจนถึงหลักล้านบาท นอกจากนี้สำหรับข้อดีของการทำประกันรถยนต์ยังจะช่วยคุณได้อีกดังนี้
เรียกประกัน จะช่วยประหยัดเงินในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแต่หากเจ้าของรถยนต์ทำประกันภัยรถยนต์ไว้ บริษัทประกันภัยก็จะเข้ามาช่วยใช้ค่าเสียหายตามวงเงินที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันภัยตามข้อสัญญา โดยที่เจ้าของรถยนต์เพียงแค่จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยปีละไม่กี่พันบาท แต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น เจ้าของรถยนต์จะได้รับการคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยเป็นจำนวนมากกว่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายไปเสียอีก บางครั้ง เจ้าของรถยนต์อาจไม่ต้องจ่ายเงินของตัวเองแม้แต่บาทเดียวในการใช้ค่าเสียหายแก่บุคคลภายนอกหรือซ่อมรถตัวเอง เพราะบริษัทประกันภัยจะจ่ายให้ทั้งหมดตามสัญญา แต่ก็อาจมีบางคนเห็นว่า ประกันภัยรถยนต์นั้นไม่จำเป็น เพราะว่าตนเองขับรถอย่างระมัดระวังอยู่แล้ว เกิดอุบัติเหตุได้ยาก แต่อย่าลืมว่า คำว่าอุบัติเหตุนั้น ก็บ่งบอกอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุโดยที่รถยนต์ของคุณไม่มีประกันภัยรถยนต์ และคุณต้องใช้ค่าเสียหายจำนวนมาก ในขณะที่ทรัพย์สินของคุณมีไม่พอจ่ายค่าเสียหาย สถานการณ์ที่แย่ที่สุด คือ คุณอาจจะถูกยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาดทรัพย์สิน เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ค่าเสียหาย ดังนั้น กันไว้ดีกว่าแก้ ทำประกันภัยรถยนต์กันเถอะครับ เบี้ยประกันภัยต่อปี ปีละไม่กี่พันบาท แลกกับมีคนคอยรองรับความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุของคุณ
ประกันภัยรถยนต์ นอกจากจะช่วยประหยัดเงินของเราในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุกับบุคคลภายนอกแล้ว ยังช่วยคุ้มครองรถยนต์ของเราด้วยไม่ว่าจะเป็นในกรณีที่รถยนต์ของเราถูกโจรกรรม หรือถูกไฟไหม้ ได้ด้วย ลองคิดดูว่า ถ้าคุณซื้อรถราคาหลักแสนมาใช้งาน แล้วอยู่มาวันหนึ่ง รถคันนั้นเกิดหายไป หรือถูกไฟไหม้ทั้งหมด เราจะรู้สึกอย่างไร และจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งโดยปัญหาเหล่านี้ แก้ได้ด้วยการทำประกันภัยรถยนต์ที่มีการคุ้มครองกรณีรถยนต์ถูกโจรกรรม หรือไฟไหม้ เพราะบริษัทประกันภัยจะใช้เงินทดแทนรถที่หายไปหรือถูกไฟไหม้ แม้จะไม่เต็มราคารถเท่ากับตอนที่ซื้อมา เพราะต้องหักค่าเสื่อมสภาพ แต่ก็ยังช่วยให้เรามีเงินช่วยเหลือในการซื้อรถคันใหม่มาใช้งานต่อไป ทำให้เราไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อรถใหม่แต่เพียงผู้เดียว
นอกเหนือไปจากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ประกันภัยรถยนต์ ยังช่วยประหยัดเงินในการรักษาพยาบาลตัวเราเองและผู้โดยสารในรถด้วย กรณีที่เราขับรถไปแล้วเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ หากรถยนต์ของเรานั้นไม่มีประกันภัยรถยนต์ เวลาที่เข้าโรงพยาบาล เราจะต้องออกค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเองทั้งหมด รวมทั้งถ้ามีผู้โดยสารบาดเจ็บ ผู้โดยสารก็จะต้องออกค่ายใช้จ่ายเองอีกด้วย แต่หากรถยนต์ของเรามีประกันภัยรถยนต์ ทางบริษัทประกันภัยก็จะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตัวเราเอง และผู้โดยสารในรถ จะทำให้เราประหยัดเงินไปได้อีกมาก
ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหมว่าประกันภัยรถยนต์ช่วยให้เราประหยัดเงินได้มากขนาดไหนจากเหตุผลทั้งสามข้อข้างต้นนั้น ถ้าหากคุณผู้อ่านมีรถยนต์อยู่ที่บ้าน หรือคิดว่าจะซื้อรถยนต์ ก็อย่าลืมทำประกันภัยกันไว้นะ เวลาเกิดเหตุเราจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก
หากผู้อ่านต้องการเช่ารถยนต์ที่สำคัญไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้ สามารถเช่ารถขับเอง เรามีให้บริการหลากหลายรูปแบบให้เลือก มองหาเราได้ที่ รถเช่าดอนเมือง หรือ Ecocar rent–a–car สามารถจองผ่าน Line ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ เนื่องด้วยในทุกๆวันนี้ การใช้รถใช้ถนนมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ตลอดเวลา ดังนั้นนอกจากผู้ใช้รถทุกคนต้องไม่ประมาทและควรระมัดระวังในการขับขี่แล้ว การทำประกันภัยรถนั้นก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ท่านเพิ่มความอุ่นใจในการใช้รถใช้ถนนมากขึ้น
รถยนต์ทุกคัน ถูกบังคับให้ทำประกันภัยรถยนต์ ภาคบังคับ หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. โดยจะได้รับความคุ้มครองต่อความสูญของชีวิต ร่างกาย และผู้ประสบภัยจากรถยนต์เป็นสำคัญ แต่พ.ร.บ. จะไม่มีคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์ทั้งของผู้เอาประกัน และคู่กรณี หากต้องการให้คุ้มครองตัวรถยนต์ ต้องทำประกันภัยภาคสมัครใจ ซึ่งมีอยู่ 5 แบบหลัก คือ ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3 ชั้น2+ ชั้น3+ ซึ่งทั้ง 5 ประเภทนี้ ประกันชั้น 1 ถือว่าดีที่สุด เรามาดูข้อดีของการทำประกันประเภท 1 กันเลย
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 จะให้คุ้มครองแบบครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย รวมไปถึงทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และยังคุ้มครองความเสียหายที่เกิดกับรถของผู้เอาประกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด และทุนประกันที่ได้รับก็ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงเกือบเทียบเท่ากับราคารถยนต์ นอกจากกรณีรถชนรถแล้ว ก็ยังคุ้มครองเหตุการณ์ไม่คาดฝันอื่นๆ อีกด้วย เช่น รถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นต้น
นอกจากนั้น บางบริษัทฯ อาจรวมถึงบริการจัดหายานพาหนะ หรือรถลากจูงที่นำไปซ่อมในสถานที่ ผู้ให้บริการซ่อมบำรุงระบุเอาไว้
แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ประกันรถยนต์ 2
เป็นประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมเกือบทุกกรณี เรียกได้ว่าคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันภัยชั้น 1 เลยก็ว่าได้ ต่างกันเพียงในส่วนกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแล้วรถของเราได้รับความคุ้มครองค่าเสียหาย ในกรณีที่รถชนกับรถเท่านั้น รวมไปถึงค่าเบี้ยประกันที่มีราคาไม่สูงเท่ากับเบี้ยประกันชั้น 1 นั่นเอง
ประกันรถยนต์ 2 จะให้ความคุ้มครองค่าเสียหายของรถเรา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุนอกเหนือจากนี้ จะไม่อยู่ในส่วนที่กรมธรรม์คุ้มครอง หมายความว่า เราจะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เองทั้งหมด รวมถึงข้อจำกัดเรื่องอายุรถยนต์ของเราและสภาพของรถเราด้วย
ประกันรถยนต์ 3
เป็นประกันรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 3 แทบจะทุกอย่าง ต่างกันเพียงแค่ประกันรถยนต์ 3 เพิ่มความคุ้มครองให้กับรถของเราในกรณีเกิดอุบัติเหตุรถชนรถเพิ่มเข้ามา ซึ่งประกันภัยชั้น 3 จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้
ประกัน 3 จะให้ความคุ้มครองความเสียหายของรถเรา (คันที่ทำประกัน) ในกรณีอุบัติเหตุรถชนรถเท่านั้น และไม่คุ้มครองค่าความเสียหายในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ น้ำท่วมและถูกโจรกรรมหรือสูญหาย ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 3 จะเหมาะกับรถยนต์ทั่วไปที่ไม่ค่อยได้ใช้งานหรือรถที่มีอายุมากกว่า 10 ขึ้นไป
ราคาประกันรถยนต์ 2 กับ ประกันรถยนต์ 3 มีราคาที่ใกล้เคียงกันในบางกรมธรรม์
ประกันชั้น 2 กับ 3 ให้ความคุ้มครองในกรณีอุบัติเหตุจากรถชนรถเท่านั้น
ประกันรถยนต์ 2 ให้ความคุ้มครองความเสียหายของรถในกรณี สูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม แต่ประกันรถยนต์ 3 ไม่ได้คุ้มครองในส่วนนี้ประกันรถยนต์ 3 ไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพรถก่อนที่จะทำประกัน
บทความเพิ่มเติม